ชาวบ้านตาค้าง เอกสารเจ้าอาวาสวัดวังกวาง ทำหนังสือตามตัวพระปีนเสารายงานตัว ใน 3 วัน ยืนยันพระปีนเสามีสังกัดรับตัวไปแล้ว เจ้าตัวถึงประกาศหน้ารายการดัง อาตมามีวัดสังกัดแล้ว ท้าทายพร้อมไปวัดไผ่ล้อมพบหลวงพี่น้ำฝน ตามนัดหมาย ส่วนหลวงพี่น้ำฝน รับเห็นเอกสารดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ทราบ มีเอกสารหนังสือสุทธิครบถ้วนหรือไม่ หากไม่ครบกระบวนการ พร้อมไปพบเพื่อตรวจสอบ ทั้งนี้มีประชาชนตั้งขอสังสัยถึงการดำเนินการรับพระปีนเสาเข้าสังกัดเพราะเหตุใด
วันนี้ 22 พ.ย.67 ช่วงบ่าย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้รับการประสานงาน จาก เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการเข้าตรวจสอบพฤติกรรมและหนังสือสุทธิจาก พระครูปลัดธีรธนัช เมตตฺตธมฺโม หรือพระปีนเสา ซึ่งได้ประกาศผ่านรายการ เรื่องนี้ต้องเคลียร์ ในช่อง TOPNEWS ว่ามีสังกัดแล้วและพร้อมจะเดินทางไปไปพบหลวงพี่น้ำฝน ที่วัดไผ่ล้อม
ต่อมาได้ปรากฏหนังสือ ที่พิเศษ/๒๕๖๗ จาก เจ้าคณะตำบลท่าช้าง เขต 1 วัดวังกวาง ตำบลท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เรื่องขอให้มารายงานตัว เรียนถึง พระครูปลัดธีรธนัช เมตตฺตธมฺโม โดยแจ้งว่าจากการที่ได้มีการขอเข้าสังกัดวัดวังกวาง แต่ท่านยังไม่เข้ามาที่วัดจึงสั่งการขอให้ดำเนินการ ในการเตรียมหนังสือสุทธิเพื่อแจ้งต่อ เจ้าคณะอำเภอกบินทร์บุรีลงนามให้ถูกต้องครบถ้วน และขอความร่วมมือห้ามท่านออกสื่อหรือเคลื่อนไหวโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้า และห้ามปฏิบัติตนอันไม่เหมาะสมกับสมณรูปอันจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่คณะ ทั้งนี้ให้มีการกลับมารายงานตัวที่วัดวังกวางภายในสามวัน ซึ่งอาศัยอำนาจตาม พระราชบัญญัติ พ.ศ.2505 มาตรา 38 ลงนามโดย พระครูประโชติพรหมวรคุณ เจ้าคณะตำบลวังท่าช้าง เจ้าอาวาสวัดวังกวาง
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเป็นการตอกย้ำและแสดงให้เห็นว่า พระครูปลัดธีระฯ ได้มีสังกัดอยู่จริงตามที่ได้ประกาศไว้ แต่มีข้อสงสัยว่าการออกหนังสือดังกล่าวได้ชี้ชัดว่าเจ้าตัว ยังไม่เคยเดินทางไปที่วัดวังกวางเลย และการออกหนังสือให้กลับมารายงานตัวในสามวันนี้ ก็เป็นเหมือนกรณีที่วัดสามชุกออกเอกสารหนังสือคำสั่งฉบับแรกให้กลับมารายงานตัวภายในเจ็ดวัน
และเรื่องนี้ได้สร้างความสงสัยให้กับประชาชนว่าวัดวังกวาง เหตุใดจึงได้มีการตอบรับให้พระปีนเสาได้เข้าไปอยู่ในสังกัดและในเอกสารยังระบุว่าเมื่อรับเข้าไปแล้วก็ยังยังไม่เคยไปที่วัดเลย จึงมีคำถามถึงหน่วยงานต่างๆว่ากรณีนี้หากพระปีนเสาใช้วิธีเร่ร่อน ไปขอสังกัดอยู่ตามวัดพื้นที่ห่างไกลและมีการออกหนังสือติดตามตัวภายในสามวันบ้าง เจ็ดวันบ้าง จะมีมาตรการอย่างไรในการควบคุมพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกทั้งสื่อโซเชียลและสื่อหลักในสังคมโดยมีกระแสจากกลุ่มประชาชนที่สงสัยจะทำเอกสารไปยัง พระครูประโชติพรหมวรคุณ เจ้าคณะตำบลที่ช้าง เขต 1 อำเภอกบินทร์บุรี วัดวังกวาง , พระครูรัตนสุทธิคุณ (โพธิ์ศรี ญาณวีโร) วัดรัตนชมภู เจ้าคณะอำเภอกบินทร์บุรี และพระครูถาวรโพธาภิรักษ์ (ถนอมศักดิ์ ถาวรธมฺโม) รองเจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี ให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี ถึงเหตุผลดังกล่าวด้วย
โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในฐานะประธานพระวินยาธิการ ภาค 14 ให้ความเห็นว่า ได้เห็นเอกสารดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่เห็นหนังสือสุทธิของพระปีนเสาว่าครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ หากเอกสารไม่สมบูรณ์แบบเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบสามารถประสานพระชั้นปกครองให้นิมนต์ไปพบกับเจ้าอาวาสชั้นปกครองในพื้นที่ หากมีความเห็นให้ทำการสึกก็สามารถให้ลาสิกขาได้เช่นกัน แต่ตอนนี้ในส่วนที่อาตมารับผิดชอบไม่ได้มีการประสานแจ้งเข้ามาทราบว่าไปออกรายการทีวี ทราบว่ามีทีมเฉพาะกิจไปติดตามดูพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว
ภาพ/ข่าว กิตติพงษ์ จันทร์ละมูล ผู้สื่อข่าว จ.นครปฐม – รายงาน
