เชียงราย พายุฤดูร้อนพัดเสาไฟฟ้าล้มกลางเมืองเชียงราย หลายพื้นที่ไฟดับเป็นวงกว้าง

 

ค่ำวันทีา 21 เม.ย.66 หลังจากที่ในช่วงหัวค่ำได้มีฝนตกหนักและมีลมพัดแรงในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงราย ได้ทำให้เสาไฟฟ้าจำนวน 2 ต้น บนถนนเวียงบูรพากลางสะพานเฉลิมพระเกียรติฯ ข้ามแม่น้ำกกก่อนถึงโรงเรียนเทศบาล 6 เทศบาลนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย มีรถยนต์จำนวน 2 คันถูกเสาไฟฟ้าขวางเอาไว้ทั้งด้านหน้าและหลังรถทำให้ไม่สามารถออกมาได้ โดยเสาไฟฟ้าดังกล่าวได้ขวางผิวจราจรฝั่งขาขึ้นซึ่งมี 2 ช่องจราจร ท่ามกลางรถที่สัญจรหนาแน่น ทำให้การจราจรฝั่งขาขึ้นติดขัดอย่างหนักและไม่สามารถสัญจรผ่านได้ผู้ใช้รถต้องเลี้ยวรถกลับแล้วหันไปใช้เส้นทางอื่นส่วนถนนฝั่งขาล่องหรือขาเข้าเมืองอีก 2 ช่องจราจรยังใช้ได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงรายและสำนักงานทางหลวงชนบทได้นำกำลังและเครื่องจักรเข้าไปย้ายเสาไฟฟ้าออกจากผิวจราจร

ด้านพื้นที่อื่นๆ พบว่าหลายตำบลของ อ.แม่สาย ต.ป่าซาง อ.แม่จัน อ.เวียงเชียงรุ้ง บางพื้นที่ฝนตกตั้งแต่ช่วงเย็นถึงค่ำและบางพื้นที่มีลูกเห็บขนาดเล็กตกปะปนมากับสายฝนด้วย ทำให้หลายพื้นที่ประสบปัญหากระแสไฟฟ้าดับทำให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้นำกำลังออกตรวจสอบเพื่อแก้ตามจุดต่างๆ

โดยนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้เดินทางไปอำนวยการการแก้ไขปัญหาสะพานเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งพบว่าเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือคนขับรถทั้ง 2 คันที่ติดค้างอยู่กลางสะพานออกมาก่อนและขนย้ายเสาไฟฟ้าออกตามขั้นตอน ซึ่งนอกจากจุดดังกล่าวแล้ว บริเวณสี่แยกแม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย ลมพัดแรงได้พัดเอากิ่งไม้หักลงบนถนน ทำให้รถจักรยานยนต์พุ่งชนจนล้มลงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และที่หมู่ 4 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ติดกับถนนพหลโยธินพบว่าต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่ข้างทางได้ล้มลงทับโรงรถและรถยนต์ของชาวบ้านจนได้รับความเสียหายแต่ไม่มีผู้ได้รับอันตราย

ด้านค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ลดต่ำลงอยู่ในโซนสีเหลืองพร้อมกันเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน โดยกรมควบคุมมลพิษตรวจวัดในเวลา 20.00 น.ที่ชายแดนไทย-เมียนมา ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย วัดได้ 86 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อ.เมืองเชียงราย วัดได้ 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และชายแดนไทย-สปป.ลาว อ.เชียงของ วัดได้ 85 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย – รายงาน