ตร.จับคนร้ายได้แล้ว!! กรณีหนุ่มอ.เถิน ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต นำศพไปทิ้งไว้ข้างบ่อปลาคนร้ายรับสารภาพ แค้นที่ผู้ตายมาพัวพันกับภรรยา จึงวางแผนล่อลวงแล้วลงมือทำร้าย ด้วยการทุบตีและใช้ปืนยิงซ้ำ

 

จากกรณี เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 66 นายวรากร กันทะสอน อายุ 31 ปี เป็นคนอ.เถิน จ.ลำปาง หายตัวไปไม่มาทำงาน เพื่อนร่วมงานออกตามหา ต่อมามีเจ้าของบ่อปลาพบมีคนเสียชีวิตในพื้นที่ จึงแจ้งจนท.ให้มาตรวจสอบ จนท.คาดว่าถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต และนำศพมาอำพรางไว้ที่ร่องน้ำข้างบ่อตกปลา บ้านหนองคล้า ซอย1 ม.8 ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ที่ผ่านมา


เมื่อวันที่ 18 ก.พ.66
พล.ต.ต.พงษ์พันธ์ วงศ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่าหาคนร้ายฆ่าโดยกระจายกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีไป พร้อมทั้งหาเบาะแสจากเพื่อนร่วมงาน และ เพื่อนบ้าน รวมถึงตรวจสอบภายในบ้านพักของผู้เสียชีวิต

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่าคนร้าย ได้สืบจากกล้องวงจรปิดพบรถยนต์ต้องสงสัย ทราบเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี รถยนต์ต้องสงสัยจอดไว้ในพื้นที่เนินกระปรอก ซอย 2 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จนท.ตร.จึงประสาน จนท.ตร. สภ.บ้านฉาง เข้าตรวจสอบจนพบ นายคม อายุ 37 ปี (ผู้ต้องสงสัย) พร้อมรถยนต์เก๋ง สีแดง ยี่ห้อ ซูซูกิ ทะเบียน 1ขบ-5825 กรุงเทพมหานคร คันเดียวกับที่จนท.ตร.สังสัยจากกล้องวงจรปิดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย พร้อมตรวจยึดรถยนต์ไปตรวจสอบและสอบสวนที่ สภ.บ้านฉาง ระยอง

จากการสอบสวน นายคม ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุเพียงผู้เดียว โดยการหลอกล่อให้นายวรากรนั่งรถยนต์ไปด้วยกัน พอสบโอกาสจึงใช้ประแจเลื่อนที่เตรียมมาตีที่ศีรษะ แล้วใช้อาวุธปืน ขนาด .38 ยิงเข้าตรงคอจนเสียชีวิต อำพรางศพมาทิ้งไว้ในร่องน้ำในพื้นที่บ่อตกปลา แล้วนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน แล้วขับรถหลบหนีกลับมาที่บ้านพักในพื้นที่ เนินกระปรอก ซอย2 ต.บ้านฉางอ.บ้านฉาง จ.ระยองจนกระทั่งมาถูกจับคาบ้านพัก

สาเหตุการทำร้ายคือ ทราบว่านายวรากร ได้มาพัวพันกับภรรยาของตน ด้วยความเจ็บใจจึงวางแผนทำร้ายร่างกายให้ถึงแก่ชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงควบคุมตัวผู้ต้องหาสอบนาน 5 ชั่วโมง พร้อมเรียกภรรยาของผู้ต้องหามาสอบสวนด้วย จนท.ได้เคลื่อนย้ายรถยนต์ของผู้ต้องหาไปที่ สภ.นิคมพัฒนา ในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจ.ระยอง ตรวจหาหลักฐานภายในรถ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายคม ผู้ต้องหาไปหาอาวุธปืนในจุดที่ผู้ต้องหาทิ้งไว้ในป่าละเมาะ ในพื้นที่ ต.บ้านฉาง อ.ย้านฉาง จ.ระยอง พบอาวุธปืน ขนาด.38 แม็กนั่ม พร้อมแม็กกาซีนกระสุนปืน ในรังเพลิง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี

สำหรับนายคม เป็นคนมอญ ปลอมแปลงเอกสาร สวมชื่อคนอื่น เพื่อเข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว เพื่อส่งพนักงานสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป “ดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว อยากให้คนร้ายถูกประหารชีวิต หลานเราไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยกับใคร เป็นคนซื่อ คนไม่ดี ถ้าติดคุกไป ถ้าออกมาก็คงกลับมาทำผิดเหมือนเดิม มันทำกับหลานเราแบบนี้มันโหดร้ายเกินไป ไม่อยากให้คดีนี้เกิดขึ้นกับใครอีก ประหารชีวิตตายตามกันไปเลย” นางมยุรี กล่าว

วานนี้ 18 ก.พ. 66 เวลา 20.00 น. นางสมจิตร กันทะสอน มารดา ได้เดินทางกับเพื่อนบ้านไปจังหวัดระยอง เพื่อเข้ากับพนักงานสอบสวนวันนี้ 19 ก.พ.66 ทันทีที่มารดานายวรากรทราบข่าวความคืบหน้าจากตำรวจ นางสมจิตร เพื่อนบ้าน และเพื่อนร่วมงานกับนายวรากรไปที่สภ.นิคมพัฒนา ตำรวจกำลังจะนำผู้ต้องหาไปทำแผนรับคำสารภาพ ก็เกิดเหตุการณ์เพื่อนของนายวรากร จะรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามไว้ ส่งเสียงด่าทอผู้ต้องหาด้วยความโกรธแค้น ต่อมานางสมจิตร อัญเชิญพระสงฆ์ทำพิธีทางศาสนาอัญเชิญดวงวิญญาณตามความเชื่อ และของเครื่องใช้ของนายวรากรในบ้านพัก นำกลับบ้านที่อ.เถิน จ.ลำปาง ที่อ.เถิน บรรดาเพื่อนบ้านที่ติดตามข่าวสาร ตั้งแต่ที่ทราบข่าวต่างมาให้กำลังใจกับครอบครัวที่บ้านไม่ขาดสาย ยิ่งทราบว่าจับคนร้ายได้แล้ว ก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดแทน และเครียดแค้นคนร้าย อยากให้คนร้ายได้รับผลกรรมอย่างสาสม.