เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 1 เม.ย.65 พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผบก.ปส.1 และ พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3 พร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ ชายแดนภาคเหนือ ที่บริเวณ โกดังเก็บสินค้า ใกล้กับบ่อขยะเทศบาลตำบลบ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย โดยการแถลงข่าวครั้งนี้เป็นการนำผลงานการปรามปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ และปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในช่วงเวลา 06.00 น.วันที่ 1 เม.ย. ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย มาแถลงข่าวร่วมกัน.
โดยเมื่อ เวลา 06.00 น. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. นำกำลังเปิดยุทธการที่เปิดยุทธการ สยบไพรี 65/9 “อินทรชิตแผลงศร” และ ยุทธการสยบไพรี 65/10 “ฟ้าสางที่เชียงใหม่” ที่ลานเอนกประสงค์ ด้านหน้า สภ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยได้กระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้น พื้นที่เป้าหมาย 57 จุด 12 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่, เชียงราย, ลาพูน,แพร่,น่าน,ตาก,เพชรบูรณ์,อุทัยธานี,ชลบุรี,หนองคาย,อุดรธานีและสกลนคร เพื่อกวาดล้างจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ทั่วประเทศ โดยในพื้นที่ อ.แม่สาย ได้เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 229/70 ม.6 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านของนายวิทยา แซ่หม่า หุ้นส่วนร้านส่งพัสดุเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยสามารถจับกุม นายวิทยา ขณะกำลังพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน.
สำหรับการเข้าจับกุม นายวิทยา เป็นการขยายผลต่อเนื่องจากการจับกุม นายศรัทธา ก่อเกิดตระกูล กับพวกรวม 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 1,200,000 เม็ด ที่บริเวณสี่แยกห้วยปลากั้ง อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา โดยพบว่ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ ลักลอบขนยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้ามาพักเก็บไว้ที่โกดังไม่มีเลขที่ ใกล้กับบ่อขยะเทศบาลตำบลบ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย โดยยาเสพติด เก็บซุกซ่อนในช่องลับใต้พื้นดินที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ ด้วยการเจาะพื้นดินวางท่อลึกลงไปประมาณ 3 เมตร ส่วนด้านบนก่อปูนทำเป็นเตียงนอน ก่อนลำเลียงส่งต่อให้กับลูกค้าตามจุดต่างๆทั่วประเทศ โดยใช้รถตู้ ดัดแปลงช่องเก็บของใต้หลังคารถเป็นที่ซุกซ่อนยาเสพติด โดยทำมาแล้ว 11 ครั้ง และถูกจับกุมได้ในครั้งที่ 11 มีเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท.
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า นายศรัทธา จะใช้บัญชีบัญชีนอมินี เป็นบัญชีรับโอนเงินยาเสพติดจากลูกค้า ก่อนก็จะให้กลุ่มเครือข่ายตระเวนถอนเงินออกมาเป็นเงินสด แล้วโอนเข้าสู่บัญชีธนาคารของ นายศรัทธา และถึงคนใกล้ชิด แล้วนำไปฟอกเงินแปลง เป็นทรัพย์สินอื่นๆ และเงินสด ส่งไปให้กับนายทุนยาเสพติดฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านเครือข่ายที่ทำธุรกิจส่งสินค้าบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา โดยเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลได้พบว่า นายวิทยามีการรับจ้างขนส่งเงินสด ที่เป็นเงินค่ายาเสพติดของเครือข่ายยาเสพติดต่างๆในฝั่งไทยอีกหลายเครือข่าย โดยอัตราค่าจ้างในการขนเงินสดข้ามไปยังประเทศเมียนมา จำนวน 3,000 บาท ต่อยอดเงิน 1 ล้านบาท โดยได้ทำมาแล้วประมาณ 4 เดือน.
พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการรวบรวมการจับกุมยาเสพติดจำนวน 7 คดีมาขยายผล ซึ่งพบว่าบางส่วนก็มีการเชื่อมโยงกัน และได้มีการติดตามเพื่อขยายผล โดยเฉพาะทางภาคเหนือที่เป็นต้นตอของการลำเลียงและสั่งการ โดยพบว่ามีการส่งยาเสพติดทางขนส่งเอกชนมากขึ้น กว่าการใช้กลุ่มคนลำเลียง แต่ก็ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ที่ทำให้เกิดผลการปฏิบัติในครั้งนี้ ในส่วนของรายที่จับกุมได้ในวันนี้คือการลักลอบขนเงินข้ามแดนซึ่งทางคนที่รับจ้างเห็นว่าได้เงินง่าย จึงได้รับทำ เพราะเป็นบริษัทขนส่งข้มแดนอยู่แล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจคนการเดินบัญชีจากเครือข่ายยาเสพติดจึงได้มีการขยายผลแและติดตามจับกุมได้ในที่สุด โดยพบว่าเพียง 4 เดือน ส่งเงินออกไปแล้วประมาณ 200 ล้านบาท.
cr.ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย.