ช่วยเหลือ 3 คนไทย จากแก๊งแสกมเมอร์ เขตเศรษฐกิจพิเศษ สปป.ลาว

 

 

เวลา 16.30 น.วันที่ 17 มี.ค.65 ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงของ สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 4 นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงราย เป็นตัวแทน นายภาสกร บุญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อม พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาม ผกก.ตม.เชียงของ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันรับตัว 3 คนไทย คือ น.ส.สายสุนีย์ สักแกแก้ว อายุ 36 ปี ชาว อ.ภูซาง จ.พะเยา , น.ส.พิชญานิน แซ่ลี อายุ 26 ปีและ น.ส.เพชราภรณ์ มูเซอร์ ชาวตำบลแม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่ถูกหลอกไปทำงานยังพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ หลังจากกลุ่มคนไทยเหล่านี้ถูกหลอกให้ไปทำงานเป็นแอดมินของคาสิโน แต่กลับบังคับให้ทำงานแสกมเมอร์ ให้สร้างตัวตนปลอมบนโลกโซเชียล หลอกนักลงทุนขาวไทยเมื่อได้เงินแล้วจะปิดเพจทันที โดยคนกลุ่มนี้ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากทางจังหวัดเชียงรายตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.2565.

โดยหลังจากที่ได้รับทราบเรื่องแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จึงได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาวในการช่วยเหลือหญิงสาวทั้ง 3 คน โดยกลุ่มคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือทางเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว นำมาส่งผ่านช่องทางถูกกฎหมาย ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงของ สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 4.

นายกนก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เรามีคนไทยจำนวนมากยังตกค้างในฝั่ง สปป.ลาว ที่ถูกหลอกไปทำงานยังพื้นเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 65 เราได้ช่วยเหลือ และหนีกลับมารวมกัน 21 คน และครั้งนี้เราได้ช่วยได้อีก 3 คน ซึ่งต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ของ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ที่ช่วยเร่งดำเนินการจนสามารถนำคนไทยออกมาได้.

ด้าน พ.ต.ท.เวียงโขง สุขุมมาลัย รองหัวหน้าด่านสะพานลาว-ไทย แห่งที่ 4 สปป.ลาว กล่าวว่า หลังจากทางการลาวได้รับหนังสือขอให้ช่วยเหลือคนไทยดังกล่าวก็เร่งสืบสวนหาข้อมูลจนสามารถช่วยเหลือคนไทยทั้ง 3 คนนี้ได้ และอยากเตือนคนไทยที่จะเดินทางไปทำงานยังพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ขอให้ไปทำงานโดยถูกกฎหมาย.

 

น.ส.สายสุนีย์ สักแกแก้ว ผู้เสียหาย กล่าวว่า ขอขอบพระคุณทางการไทยและลาว ที่ช่วยเหลือตนเองและเพื่อนไปจนรอดออกมาได้ และเตือนว่าอย่าหลงเชื่อการสมัครงานทางโซเชี่ยลมีเดียล ว่าจะได้ทำงานดี กินหรู่ อยู่สบาย เงินเดือนดี มันไม่จริงและอาจเป็นเครื่องมือในการทำผิดกฎหมายอีกด้วย.

นอกจากนี้ทางสถานเอกอัคราชทูต เวียงจันทน์ ได้มีประกาศเตือนภัยการถูกหลอกลงให้เดินทางไปทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว โดยมีเนื้อหาว่า “ด้วยในช่วงที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับรายงานว่า มีขบวนการหลอกลวงคนไทยและต่างชาติ ให้เข้าไปทำงานในเขตพื้นที่เศณษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำ แขวงบ่อแห้ว สปป.ลาว โดยปรากฎโฆษณารับสมัครงานบนสื่อสังคมออนไลน์ หรือได้รับการชักชวนจากนายหน้าคนไทย โดยอ้างว่ามีค่าตอบแทนสูง สวัสดิการดี ที่พักและอาหารพร้อม แต่เมื่อคนไทยตกงและเดินทางมาถึงเขตเศรษฐฏิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลักลอบเดินทางเข้า สปป.ลาว อย่างผิดกฎหมาย จะถูกบังคับให้ลงนามในสัญญาภาษาต่างประเทศ บังคับทำงานที่ไม่ได้ตกลงกันไว้ และมักเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย เช่นหลอกลวงและฉ้อโกงทรัพย์สินผู้อื่นในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งกลุ่มสื่อสังคมออนไลน์ และการค้าประเวณี ซึ่งหากปฏิเสธหรือรายได้ไม่ถึงเป้าหมายอาจถูกเรียกเงินจำนวนมาก ถูกข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย จำกัดอิสรภาพ หรือกักขัง ยึดเอกสารประจำตัว รวมทั้งส่งขายต่อให้นายจ้างรายอื่น.

สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอแจ้งเตือนคนไทย โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดชายแดนติดกับแขวงบ่อแก้ว และจังหวัดใกล้เคียง ให้ใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบ อย่าหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อของขบวนการหลอกลวงไปทำงานในพื้นที่เศรษฐฏิจสามเหลี่ยมทองคำ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางเข้า สปป.ลาวอย่างผิดกฎหมายจะถูกผลักดันกลับประเทศ ถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเข้า สปป.ลาว และอาจได้รับบทลงโทษตามกฏหมาย สปป.ลาว ซึ่งมีทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ โดย่ระหว่างการดำเนินคดีจะถูกกักขังไว้ด้วย ผู้ที่ประสงค์ขอรับความช่วยเหลือสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่หมายเลข (+856)2055512228 และไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ thaiembassy.vte@mfa.go.th จึงประกาศมาเพื่อโปรดทราบทั่วกัน”.

cr.ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย.