รวบหนุ่มหัวใส อ้างเคยทำงานโรงพิมพ์ นึกอยากลองเอาเงินปลอมหย่อนในตู้เติมเงิน แล้วโอนเข้าบัญชี ตู้อ่านและโอนเงินได้จริง ย่ามใจ ทำแล้ว 3 ครั้ง ก่อนถูกจับ

 

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 4 ม.ค. 65 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สราวุธ จันมะโน ผกก.สภ.สันทราย นำโดย พ.ต.ท.พูนทรัพย์ รวมสุข รอง ผกก.สส.ฯ และชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุม นายดำรังศักดิ์ วงค์ตาน้อย อายุ 38 ปี 15/1 ม.1 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยจับกุม ที่บ้านเลขที่ 15/1 ม.1 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลาง พร้อมด้วยของกลาง เครื่องปริ้นถ่ายเอกสาร ยี่ห้อ เอฟสัน รุ่น อีโคแท้ง แอล 3210 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง (ตรวจยึดได้จากบ้านผู้ถูกจับ) ธนบัตรปลอม ฉบับละ 100 หมายเลข 2ท1217595 จำนวน 5 ฉบับ และธนบัตรปลอม ฉบับละ 100 บาท หมายเลข 9ต 0225103 จำนวน 2 ฉบับ(ตรวจยึดได้จากนางมะลิวรรณ จิตตลดากร เจ้าของร้านขายของชำซึ่งมีตู้เติมเงินที่เป็นผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง ขณะที่ผู้ถูกจับนำไปชี้จุดที่ก่อเหตุในการใช้ธนบัตรปลอมไปใส่ตู้เติมเงิน) โดยกล่าวหาว่า “ปลอมและใช้สิ่งของทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกระษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใดซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้น โดยผิดกฎหมาย” เหตุเกิด ร้านวรวุฒิ เลขที่ 70 ม.1 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เบื้องต้นให้การรับสารภาพ.


ทั้งนี้ก่อนการจับกุม เมื่อวันที่ 4 ก.พ.65 เวลาประมาณ 11.58 น. ชุดจับกุมได้รับแจ้งจาก นายวรวุฒิ ดาวราม อายุ 21 ปี 70 ม.1 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ผู้เสียหาย ซึ่งได้เปิดตู้รับเติมเงินสดเข้าบัญชีทางการเงินในเรื่องต่างๆ กระทั่งวันเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้เข้าไปเปิดตู้บัตรเติมเงินในตู้รับเงิน ผลปรากฏพบธนบัตรที่มีผู้ใช้บริการนำมาใส่ในเครื่องพบเป็นธนบัตรปลอม โดยเป็นฉบับละ 100 บาท จำนวน 29 ฉบับ รวมเป็นเงิน 2,900 บาท ผู้เสียหายทราบว่าเป็นฉบับปลอม จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พงส.เพื่อดำเนินคดี.

กระทั่งชุดสืบสวนจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ถูกจับเป็นผู้ที่ปลอมธนบัตรและนำไปใช้ใส่ในเครื่องเติมเงินอัตโนมัติที่จะมีวางไว้ประจำแต่ละร้านในชุมชนย่านที่เกิดเหตุ อีกทั้งจากกการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบลักษณะบุคคลต้องสงสัย จึงได้ติดตามจับอยู่บริเวณบ้านจึงได้เข้าซักถาม กระทั่งผู้ถูกจับยินยอมให้การรับสารภาพว่าตนได้เป็นผู้ที่กระทำความผิดตามข้อกล่าวจริง ซึ่งยังรับอีกว่าเริ่มต้นจากการนำเครื่องปริ้น มาวางถ่ายเอกสารด้านหนึ่ง จากนั้น ได้วัดระยะห่างตามขนาดเครื่องปริ้น แล้วกลับหน้ากระดาษ เพื่อให้ถ่ายเอกสารอีกหน้าหนึ่งให้ตรงกับกระดาษที่ถ่ายไว้แล้วด้านหนึ่ง เมื่อถ่ายตรงกันทั้งสองด้านก็ได้ตัดออกเป็น 1 ฉบับ จากนั้น ก็ได้ทำเป็นชุดๆ จำนวนหลายชุด/ฉบับ จากนั้น ก็ได้นำเงินปลอมดังกล่าวไปหยอดเติมเงินตู้อัตโนมัติเพื่อโอนเข้าบัญชีตนเอง หรือเติมเงินเข้าโทรศัพท์มือถือฯลฯ กระทั่งถูกชุดจับกุมตรวจพบและขยายผลจนกระทั่งทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดดังกล่าว และรับอีกว่าได้ก่อเหตุมาแล้วประมาณ 3 ครั้ง เหตุจูงใจเนื่องจากเคยทำงานโรงพิมพ์มาก่อนจึงลองนำเงินจริงมาปริ้นส์แล้วลองไปหย่อนในตู้ ปรากฎว่าตู้เติมเงินได้อ่านแล้วโอนเงินจริงมาให้เลยย่ามใจทำแล้ว 3 ครั้ง ส่วนเงินที่ได้มาใช้ซื้อยาเสพติดมาเสพ หลังสอบสวนเสร็จจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดี.