พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ยังมีคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี.

วันนี้(4 ก.พ. 65) พล.ต.ประสิษฐิพงศ์ มูลดี รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ในห้วงตั้งแต่วันที่ 1 –31 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบสภาพอากาศในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ พบว่า มีค่า PM 2.5 เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 16 – 37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนค่า PM 10 มีค่าเฉลี่ย 24 – 68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และมีค่า AQI อยู่ระหว่าง 17 – 63 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยพื้นที่ที่มีค่า PM 10 และ ค่าAQI เฉลี่ยสูงมีทั้งหมด 3 จังหวัดได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดนครสวรรค์ ส่วนจังหวัดอื่นๆ ยังคงมีค่าฝุ่นละอองที่ต่ำกว่าเกณฑ์ จึงทำให้ปัจจุบันคุณภาพอากาศโดยรวมของภาคเหนือยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี.

ขณะที่สถานการณ์การเกิดจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ พบว่าเกิดจุดความร้อนสะสม จำนวน 4,098 จุด ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ป่าสงวนฯ จำนวน 1,517 จุด รองลงมาเป็นพื้นที่ทางการเกษตร จำนวน 949 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 829 จุด และเขต สปก. จำนวน 488 จุด.

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการส่งชุดปฏิบัติการ ลงพื้นที่พบผู้นำชุมชนในพื้นที่เสี่ยง และลาดตระเวนป้องปรามการลักลอบเผาป่า นอกจากนี้ยังมีการขอความร่วมมือให้ชุมชนช่วยประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแนวทางการป้องกันการเกิดไฟป่าหมอกควันในชุมชน ซึ่งปัจจุบันกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ยังคงติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยส่งกำลังออกลาดตระเวนสำรวจพื้นที่ป่า เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน.