แม่ฮ่องสอน เรื่องผักเดือดร้อนไม่เลิก รถขนผักเจอเบี้ยวรวมเป็นล้านบาท.

 

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 ตัวแทนกลุ่มรถบรรทุกรับจ้างขนพืชผลทางการเกษตร ทั้งจากพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก ลำพูนและเชียงราย โดยการนำของ นส.กมลวรรณ จินดาหลวง , นายรัตนพันธ์ วัดอ่อน , นายสุชาติ เจริญชัยนันต์ และ นางอัญชลีพร เพชรมณีธร ได้หอบหลักฐานเข้าร้องกับสื่อมวลชน โดยอ้างว่ากลุ่มของตนเองเป็นกลุ่มของรถบรรทุกจนส่งพืชผลทางการเกษตรจากชาวบ้านหรือเกษตรกรแต่ละพื้นที่ เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับตลาดรับซื้อรายหนึ่ง ซึ่งมีที่ตั้งอยู่หลังห้างบิ๊กซีเอ๊กตร้า จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้ชื่อหน้าเพจว่า Northern Agriculture (2020) CO.,LTD เป็นผู้รับซื้อรายใหญ่ รับซื้อจำนวนมากและจ่ายเงินสดทันที ซึ่งได้มีการติดต่อพูดคุยกันผ่านทางไลน์จนกระทั่งมีการตกลงซื้อขายขึ้น.

โดย นส.กมลวรรณ จินดาหลวง ผู้ประกอบการรายหนึ่งในจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ตนเองและพรรคพวกพบเจอการโฆษณาหน้าเพจ จนกระทั่งเจอบริษัทดังกล่าว ที่ได้ทำการติดต่อซื้อขายพืชผลทางการเกษตร โดยให้ทำการตัดและบรรทุกไปส่งให้ที่บริษัท เริ่มทำการซื้อขายกันมาตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งทางผู้ประกอบการรถบรรทุกแต่ละรายจะต้องซื้อด้วยเงินสดหรือนัดชำระเงินให้แก่เกษตรกรเจ้าของสวนผักที่มีทั้งผักกาดขาวและกะหล่ำปลี แต่เมื่อนำสินค้ามาส่งก็ต้องเจอกับการตุกติกและเจอกับมาตรการต่างๆ ที่ไม่เคยได้ตกลงมาก่อนหน้า ทั้งการให้เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่จะต้องใช้ถุงและแรงงานของทางผู้รับซื้อ นอกจากนี้ยังบอกว่าผลผลิตไม่ตรงกับที่สั่งหรือมีบางส่วนที่เน่าเสีย ทั้งๆ ที่วันที่นำรถบรรทุกมาส่งของนั้นก็เข้าชั่งน้ำหนักตามปกติ ทำให้แต่ละรายต้องยอมรับสภาพเพื่อให้ได้เงินกลับไปคืนให้กับเกษตรกร แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด เมื่อมีการทวงถามก็อ้างสารพัดหรือบอกว่าให้ส่งบัญชีที่จะให้โอนเงินใหม่อีกครั้ง เมื่อเดินทางเข้าไปขอเจรจาเพื่อขอรับเงินในส่วนที่ตนเองจะได้ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ จนต้องนำเรื่องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิงและร้องทุกข์ไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 รวมทั้งรวมตัวกันไปร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ แต่ก็เกรงว่าเรื่องจะเงียบจึงรวมตัวกันมาร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนอีกทางหนึ่ง เนื่องจากได้ล่วงเลยเวลามานานแล้ว ประกอบกับเจ้าของรถแต่ละคันก็ถูกเกษตรกรทวงถามค่าพืชผลมาด้วย จนทำให้เครียดหนัก.

ด้านนายรัตนพันธ์ วัดอ่อน เจ้าของรถบรรทุกอีกรายจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้พยายามทุกทางที่จะขอเจรจาและขอรับเงิน แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่ต้องการที่จะฟ้องร้องอะไรทั้งสิ้น แต่ต้องมาเดือดร้อนเพราะรับปากกับเจ้าของสวนไว้จนป่านนี้ก็ติดหนี้สินเป็นจำนวนมาก ทั้ง ๆ ที่ตนเองไม่เคยเป็นหนี้ใครมาก่อน และก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในครอบครัว รวมถึงจะต้องมีค่างวดรถกระบะที่จะต้องผ่อนส่งกับบริษัทรถ จนกลายเป็นปัญหาคาราคาซังดังกล่าว
ในขณะที่นายสุชาติ เจริญชัยนันต์ เจ้าของรถบรรทุกอีกรายจากอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็นเพียงรายเดียวที่ยอมเข้าไปเซนต์สัญญากับบริษัทรับซื้อเพื่อหวังว่าอาจจะได้เงินมาปลดหนี้สินบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงกัน เพราะแม้จะเซนต์สัญญาไปแล้วก็ยังไม่ได้รีบเงินเช่นเดียวกัน.

ล่าสุดทราบว่าทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำหนังสือถึงบริษัทรับซื้อดังกล่าว ให้ดำเนินการเจรจาหาข้อตกลงและหาทางคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากบริษัทดังกล่าว ในขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการรถขนผักที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้มีจำนวน 11 รายและมีมูลค่าของสินค้าที่ได้ไม่ได้รับเงินอีกราวหนึ่งล้านบาท เตรียมรวมตัวกันทั้งหมดเพื่อเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับที่สูงขึ้นต่อไป เพราะแต่ละคนมีภาระค่าใช้จ่ายและเป็นหนี้สินกันจำนวนมาก ประกอบกับเป็นปัญหาที่มีคนเดือดร้อนอยู่หลายจังหวัดและมีมูลค่านับล้านบาท.

cr.วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน