เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2564 ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานเทศบาลตำบลแม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง มีตัวแทนชาวบ้านแม่ทะ หมู่1 และ หมู่ 9 จำนวนกว่า 200 รายพร้อมด้วยนายกมล ถาน้อย ประธานสภาทนายความจังหวัดลำปาง เดินทางมาพบประธานกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลแม่ทะ เพื่อขอเอกสารสมุดเงินฝาก และบัญชีรายรับ รายจ่ายเงินกองทุนฯ เพื่อรวบรวมเป็นหลักฐานส่งฟ้อง ประธานกองทุน และคณะกรรมการกองทุนฯ ทั้งทางแพ่งและอาญา แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากทางกองทุนไม่มีเอกสารให้ชาวบ้าน และก็จะเดินหน้าฟ้องร้องคดีดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นางจริพร ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า วันนี้มาตรวจสอบของเอกสารจากกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลแม่ทะ ยังไม่เรียบร้อย รายรับ-รายจ่ายยังไม่ตรงกันเกี่ยวกับเงินออมของชาวบ้านมีความประสงค์จะขอลาออกจากการเป็นสมาชิก แต่ทางกองทุนฯเขาจะให้ครึ่งหนึ่งและจะหักค่าสวัสดิการ ซึ่งมันไม่ยุติธรรมกับชาวบ้าน โครงการเงินออมวันละ 1 บาท ชาวบ้านต้องการลาออก เนื่องจากกองทุนฯบริหารเงินไม่โปร่งใส แต่ทางกองทุนฯ ไม่ยินยอมเงินคืนให้ชาวบ้าน โดยทางกองทุนฯจะให้เงินคืนชาวบ้าน 50% ซึ่งไม่ยุติธรรมกับชาวบ้าน ซึ่งเป็นเงินชาวที่ชาวบ้านออมวันละ 1 บาทส่งกองทุนฯ รวม 168 ราย รวมเงินกว่า 315,805 บาทเงินทั้งหมดหายไปไหน จึงได้รวมตัวฟ้องร้องจะสู้ให้ถึงที่สุด โดยมีทางประธานสภาทนายความจังหวัดลำปาง เข้าช่วยในเรื่องคดีให้กับชาวบ้าน พร้อมกับสำนักงานอัยการจังหวัดลำปาง เข้ามาช่วยเหลือ
นายกมล ถาน้อย ประธานสภาทนายความจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้าน ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ มีปัญหาเรื่องเงินกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลแม่ทะปรากฏว่าเงินที่ใช้จ่ายบางส่วนไม่ถูกต้อง เราไม่ทราบว่ามีการทุจริตหรือไม่ แต่วันนี้ทางกองทุนฯได้ยื่นเอกสารให้กับศาล ทางแพ่งฟ้องเรียกเงินจากกองทุนฯ เรียกเงินที่ชาวบ้านสะสมคืนมา โดยมีชาวบ้านจำนวน 168 ราย เป็นโจทย์ฟ้องกองทุนฯ และยังมีชาวบ้านที่เสียหายอีกกว่า 200 รายที่จะฟ้องทางแพ่งร้องเรียกเงินคืนจากกองทุนฯและจะฟ้องร้องในคดีอาญาต่อไป โดยศาลจะนัดตัดสินในวันที่ 28 ม.ค.2565 นี้ จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด เนื่องจากชาวบ้านขอความช่วยเหลือทางสภาทนายความจังหวัดลำปางยินดีที่จะช่วยเหลือชาวบ้านซึ่งเป็นหน้าที่อยู่แล้ว
ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลแม่ทะ ตั้งขึ้นมาได้ 7 ปี จากโครงการเงินออมวันละ 1 บาท สมาชิกเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี สามารถออมเงินไว้เป็นทุนการศึกษาของลูก โดยเบื้องต้นจำนวนสมาชิก 168 รายมีความประสงค์จะลาออก คิดเป็นเงินสะสม 88 งวด คนละจำนวน 2,640 บาท รวมเงินสะสมกว่า 443,520 บาท แต่เมื่อชาวบ้านจะลาออกทางกองทุนฯจะหักส่วนต่างจะจ่ายเงินคืนเพียงคนละ 1,588 บาท นอกจากนั้นส่วนต่างที่เหลือและอ้างว่าเงินทางอำเภอและทางเทศบาลจ่ายสมทบกองทุนอีกรายละ 2 บาท รวมเป็น 3 บาท รวมแล้วเป็นเงินหลายล้าน บาทหายไปไหนทางกองทุนฯไม่สามารถตอบได้และไม่มีเอกสารรายรับ-รายจ่าย ไม่มีการประชุมสมาชิก ทั้งที่ชาวบ้านต้องจ่ายเงินออมเข้ากองทุนฯทุกเดือน จึงรวมตัวฟ้องร้องต่อศาลและขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความจังหวัดลำปางดังกล่าว
นางทอง ทะลา อายุ 74 ปี ชาวบ้านแม่ทะ กล่าวว่า ครอบครัวสมัครเป็นสมาชิกกองทุนฯ 3 ราย ส่งเงินออมเข้ากองทุนมา 7 ปีรวมกว่า 7,920 บาท เช่นเดียวกับนางสังวาล คำฟู อายุ 67 ปี สมัครสมาชิกมา 7 ปี ทั้งครอบครัว 9 คน ส่งเงินออมเดือนละ 270 บาท รวมเงินออมกว่า 29,160 บาท และนางจันทร์ฉาย ศิริบูรณ์ กล่าวว่า ครอบครัวสมัครสมาชิกกองทุนฯ 3 คน ส่งเดือนละ 90 บาท ส่งมาเงินกว่า 88 งวด รวมเงินกว่า 7,920 บาท ถ้าหากลาออกก็จะได้เงินเพียงครึ่งเดียว ใครอยากได้เต็มให้ไปฟ้องเอา ซึ่งเป็นเงินเราเองแท้ๆ ชาวบ้านจึงรวมตัวมาฟ้องร้องดังกล่าว.
