สวัสดีชาวแก๊งค์ทุกๆคนนะคะ อยากจะมาเล่าประสบการณ์ที่เคยเจอ เมื่อ 14-15ปีที่เเล้ว
เป็นการไปเช่าบ้านอยู่ ที่บ้านหลังหนึ่งค่ะ ก่อนจะไปเช่าบ้านหลังนั้น เดิมบ้านจริงๆ ที่อาศัยอยู่โดยไม่มีท่าที ที่จะย้ายไปไหน เป็นบ้านที่อาศัยอยู่เเละโตมา ตั้งเเต่เด็กๆ เป็นบ้านของปู่ ปู่ได้ซื้อไว้ให้พ่อ ในโครงการหมู่บ้านหมู่บ้านนึง เส้น ถนน ลำปาง – แม่ทะ ถ้าใคร ใช้ถนนเส้นนี้ในการเดินทางเข้าเมือง หรือ
ใช้ขับผ่านประจำจะรู้ ว่าจะผ่านหมู่บ้านหรือชุมชนอะไรบ้างในเส้นนี้ ในตอนนั้น ไม่คิดว่าจะได้ไปเช่าอยู่ที่อื่น แล้วต้องมาเจอเรื่องเเปลกๆที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ เข้าไปอยู่โดยไม่รู้ประวัติความเป็นมาอะไรเลย คิดว่าเป็นเเค่บ้านที่เจ้าของ คงปล่อยให้ใครที่สนใจได้มาเช่า จากจุดเริ่มต้นของความไม่หน้ากลัวโดย..
ครอบครัวมีสมาชิกทั้งหมด มี4 คน ค่ะ มีพ่อ แม่ และน้องสาว
ช่วงอายุตอนนั้น อายุ12-13ขวบ กำลังจะขึ้นมัธยมต้น ทางครอบครัวมีความจำเป็นที่จะต้องย้ายออกจากบ้านหลังเดิม พ่อกับเเม่ บอกแค่ว่า เดี๋ยวจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น เดี๋ยวเราต้องย้ายออกนะ ไม่ช้าไม่เร็ว ถ้าหาบ้านได้เเล้ว เตรียมตัวนะ พ่อกับเเม่บอกประมาณนี้ จะได้เตรียมตัวนะลูก
ในวัยนั้น คิดว่า ทำไมต้องย้ายออก อยู่ที่เดิมมาก็นาน ความผูกพันธ์ เคยชินอะไรหลายๆอย่าง แล้วไปที่อื่นมันจะเหมือนบ้านนี้ไหม จะเเย่หรือดีกว่าที่ๆเคยอยู่ไหม ข้างบ้าน หรือสภาพเเวดล้อมจะเป็นยังไง ได้เเต่เตรียมใจที่จะต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น มันไม่ได้อยากไป เเต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พ่อกับเเม่ว่ายังไงก็ต้องตามนั้นค่ะ ซึ่ง บ้านที่ไปเช่าเนี่ยค่ะ พอพ่อแม่แกหาได้เเล้ว มันเดินทางสะดวกค่ะ อยู่ไม่ไกลจากบ้านเดิม ในรัศมีไม่เกิน2 กิโลค่ะ เป็นชุมชนเเถวๆ ทางรถไฟ เเต่จะไม่ลงรายละเอียดว่าอยู่ตรงไหนซอยไหนนะคะ พอได้บ้านที่จะเช่าก่อนจะเข้าไปอยู่ ก็ขับรถมอไซค์ไปกับเเม่ ไปที่บ้านหลังนั้น ไปทำความสะอาดกันก่อนจะขนของเข้าไปอยู่ ลักษณะบ้าน เป็นบ้านใครบ้านมันรั้วใครรั้วมัน เป็นบ้าน2ชั้น ชั้นบนเป็นไม้ ชั้นล่างเป็นปูน พื้นกว้างกว่าบ้านหลังเดิมค่ะ มีโรงจอดรถข้างบ้าน สภาพภายนอกในความคิดส่วนตัว นี่จะต้องมาอยู่จริงๆใช่ไหม กลางวันยังรู้สึกหน้ากลัว กลางคืนฟิลจะหน้ากลัวกว่าขนาดไหน
*********************************************************
บริเวณบ้าน ตั้งเเต่ประตูทางเข้าหน้าบ้าน ประตูเลื่อนเหล็กเลื่อนจะฟืดๆ เปิดปิดค่อนข้างฟืด มารอบๆบริเวณนอกตัวบ้านก่อน เริ่มจากหน้าบ้านจะมีศาล หลังศาลจะมีต้นมะขามต้นใหญ่ต้นนึง มีพวงมาลัยแห้งๆห้อยอยู่ ส่วนศาล เหมือนศาลที่ไม่ค่อยมีใครได้ไหว้ ไม่ค่อยได้ปัดเช็ดดูเเล เข้าไปก็ยกมือไหว้ปกติ เเต่บรรยากาศมันวังเวงรอบๆก็วังเวงทั้งที่ ข้างบ้านก็มีคนอาศัยอยู่ เเละเป็นกลางวัน ทำไมวังเวงจัง ถัดไปทางขวามือของทางเข้า จะมีต้นมะม่วงต้นกลางๆที่พอจะฟันทิ้งได้ แม่เลยบอกกล่าวเจ้าที่ขออนุญาต และฟันต้นมะม่วงทิ้ง เพราะมันบังหน้าประตูทางเข้า ถ้าเข้ามาอยู่มันจะดูหน้ากลัว ทำความสะอาดได้ไม่มาก ปัดกวาดเช็ดนิดหน่อยเท่าที่พอทำกันได้ เพราะบ้านค่อนข้างจะกว้าง ในส่วนชั้น2ของบ้าน จะขึ้นได้จากบันไดหน้าบ้าน และ บันไดหลังครัว มี2ห้องนอน แม่ก็ฟันต้นมะม่วงของแม่ไป ส่วนเราด้วยความชอบสำรวจนั่นๆนี่ๆ
เป็นบ้านเช่าหลังเเรกในชีวิตด้วยที่มาเช่า ขอสำรวจหน่อยละกัน เลยเดินขึ้นไปชั้น2 คนเดียว จะมีหิ้งพระติดผนังอยู่ ห้องที่สองก็เป็นห้องโล่งๆ แต่ทั้งสองห้องหน้ากลัวมากๆ มันวังเวง ห้องที่มีหิ้งพระ เป็นหิ้งเปล่าๆ มีพวงมาลัยแห้งๆที่ไหว้อะไรไม่รู้ ห้อยอยู่ ก็เลยยกมือไหว้ พูดไปว่า ลูกมาเช่าอาศัยอยู่นะ ปกปักรักษาคุ้มครองนะ ประมาณนี้ พูดจบ ขนหัวลุก มันจะเป็นความรู้สึกเหมือนอะไรหยุมหัว ขนลุกทั้งตัว ด้วยความที่ เป็นคนกลัวผี เลยเดินออกจากห้องนั้น เเล้วเดินไปลงบันไดหลังบ้าน พอจะเดินลงจากชั้น2 เสียงไม้ของพื้นบ้านดัง เหมือนมีคนเหยียบ ดัง เอี๊ยดๆ ( ถ้าคนมีบ้าน2ชั้นข้างบนเป็นไม้จะรู้ว่า เวลาคนเดินบนบ้านไม้ที่พื้นจะดัง ) เอี๊ยด เอี๊ยดๆ ดังจากที่เราไม่ได้ยืน ตั้งเเต่ตรงหิ้ง ในห้องออกมานอกห้อง ในใจคิดได้อย่างเดียว เล่นกูเเล้ว ใช่เเน่ๆ เล่นกูเเล้ว กลางวันซะด้วย เลยรีบกระโดดลงบันได จากชั้นสอง ทั้งที่บันไดโคตรชัน ดีไม่ตกลงมาเจ็บตัว พอลงมาเหลียวหลังไปดู เสียงก็หายไปเเล้ว เก็บไว้ในใจไม่
พูดกับเเม่ ละเดินไปอยู่หน้าบ้าน พอแม่ฟันต้นมะม่วงเสร็จเเกก็จะขึ้นไปชั้น2 จากบันไดหน้าบ้าน เลยขึ้นไปกับเเม่อีกรอบ
เเต่ไม่ได้เล่าเหตุการณ์ที่เจอให้กับเเม่ฟัง พอแม่ขึ้นไปแม่ก็เดินดูนั่นนี่ และเข้าไปในห้องที่มีหิ้ง ห้องเดียวกับที่เราเข้าก่อนหน้า แกยกมือไหว้เเบบเดียวกับที่เรายกมือไหว้ตอนเเรก ไม่ถึง1นาที แม่เหลียวมา โอ้ยยย ขนลุกวะ ยกแขนให้ดู ขนเเขนสองข้างแกลุกจริงๆ แกพูดว่าลงบ้านกันไหม วันนี้พอละไม่ทำความสะอาดอะไรละ พอแค่นี้ค่อยมาใหม่ ก็เดินลงบ้านกันเลย เก็บของ ล็อคบ้าน เเล้วกลับบ้านกันเลย
.
ขับออกมาเเล้ว แกก็เล่าเลย มีเเน่ๆเจ้าที่บ้านนี้เเรงมาก ยังไม่ทันอยู่เลย เหมือนมีคนลูบหัว ลูบเเขนตั้งเเต่คำเเรกที่พูดตอนยกมือไหว้เลย นี่คือสิ่งที่เเม่พูด จนมาถึงวันที่ต้องย้ายออกจากบ้านเดิม ในใจไม่อยากไปเลย ก็ขนของขึ้นรถ ย้ายกันทั้งวัน ขนเสร็จประมาณเย็นๆ พ่อแม่เริ่มล้าหลังจากยกของทั้งวัน ข้าวของที่ย้ายมาก็ยังไม่ได้จัดอะไรให้เข้าที่เข้าทางมาก จัดเเค่ที่นอนในคืนนี้พอ เราเลยถามเเม่ว่าแม่จะอยู่ห้องไหน จะได้ขนของขึ้นไป แม่พูดกลับมาว่า ไม่ต้องขนขึ้นไหม เราอยู่กัน4คนเเค่ชั้นล่างพอ ขนขึ้นๆลงๆเวลาย้ายออกมันจะเหนื่อย บวกกับกลัวในเรื่องวันนั้นวันที่มาทำความสะอาดบ้านกัน ก็เลยอยู่ด้านล่างกันไม่ขนอะไรขึ้นไป ส่วนชั้น2ที่เป็นไม้ ไม่มีใครขึ้นไปอยู่ ไม่ได้เอาข้าวของอะไรขึ้นไปไว้ด้วย มีเเค่ชั้นเปล่าๆโล่ง
เริ่มค่ำเเล้ว ใครจะอาบน้ำก็ไป ในตอนอาบน้ำเราเป็นคนอาบคนสุดท้ายพอดี เเล้วอาบดึก ระหว่างที่อาบน้ำ เสียงจากนอกตัวบ้าน ได้ยินเสียงเท้า เหยียบกิ่งไม้ ไปมาๆ ในหัวคิดอีกละ เอาอีกเเล้ว คืนเเรกจะผ่านมันไปได้ไหม เสียงก็ดังตลอด จะเดินอะไรนักหนาคิดในใจ เราเลยรีบๆอาบน้ำเเละจะรีบเข้านอนไม่เล่าใครเหมือนเดิม พอใกล้จะนอน จัดที่นอนเสร็จ ปิดไฟ นอนกัน บรรยากาศเย็นๆ เงียบๆ ไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงจิ้งหรีด ประมาณ15นาทีได้ เสียงเเม่ถามพ่อว่า ได้ยินอะไรไหม พ่อตอบว่าไม่ได้ยิน ไม่ต้องพูดไม่มีอะไร นอนๆ แม่ก็เงียบไป สักพัก เสียงดังบนชั้น2ของบ้าน เป็นเสียงคนเดินบนบ้าน เดินไปเดินไป แล้วมาหยุดตรงที่ เรา4คนนอน เราตอนนั้นกอดหมอนเเน่นมาก ใช่เเน่ๆ คิดเสร็จไม้บนบ้านดังเอี๊ยดๆ ดังเรื่อยๆ พ่อพูดเเล้วบอกว่าเราว่า นอนๆไม่มีอะไร ด้วยความกลัวเเละคิดว่าใช่อะ ไม่ผิดแน่ เอามือคว้าหาผ้าห่มคลุมโปง เสียงเอี๊ยดๆ ก็ดังไม่หยุด จนหลับไปตอนไหนไม่รู้ตื่นมา เปียกทั้งหัว ทั้งตัวด้วยความที่นอนคลุมโปงทั้งคืน
.
*********************************************************
จากคืนเเรกที่เจอ หรือกลางวัน แสกๆ ก็จะเจอเหตุการณ์แปลกๆตลอด เวลาอยู่บ้านกับน้อง ประตูหลังครัว ประตูมุ้งลวดชอบเปิดเอง เเต๊บ! บางวันก็เปิดเอง แต๊บ! เข้าใจว่าคงเป็นลมจากหน้าต่างหลังบ้าน หรือ ลมที่มาจากประตูหลังครัว หมาที่เลี้ยงไว้ ชอบวิ่งมามุดๆด้วย บางวันหมาขู่เเล้วมองไปที่ประตูหลังครัว เห่าเเล้วขู่ เเล้ววิ่งมาหา หางจุกตูด ก็งงว่าหมามันหนีอะไร มันเห็นอะไร ทำไมมันดูกลัวมากๆ บางครั้งพ่อกับแม่ไปข้างนอกอยู่บ้าน2คนพี่น้อง แม่แกกลัวใครจะมาหามาเรียกเพราะไม่มีผู้ใหญ่อยู่บ้าน สั่งให้ปิดหน้าต่างปิดประตูดีๆนะ วันนั้นเราปิดหมดเลยทั้งบ้าน เหตุการณ์เดิมเลย หมามันวิ่งไปที่ประตูจ้อง ขู่ เห่าเสียงดัง ท่าทางกลัว ด้วยความรำคาญ เลยเดินไปดู ก็ไม่มีอะไรเเต่หมายืนเห่าและขู่ท่าทางกลัวอยู่ พอเห็นเราหมารีบวิ่งมาหาส่งเสียงร้องแบบกลัวข้างๆเรา เราเลยเดินไปเปิดประตูที่หมายืนเห่า แล้วยืนดูเลย เผื่ออาจจะมีตัวอะไรเเล้วเราไม่เห็นหรือเปล่า พอเปิดปุ๊บ อ่าว ก็ไม่มีอะไร เลยพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิดว่า อะไรวะไม่มีอะไรสักอย่าง เห่าอะไรของมัน ต่างคนต่างอยู่สิ หมามันกลัว ขนาดคนยังกลัวเลย พูดเสร็จเดินไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ แล้วก็เดินเข้าบ้าน เสียงอะไรก็เงียบลง
** จริงๆอยากถ่ายภาพประกอบเเต่ให้ทุกคนเห็นภาพตามมากๆเลย เเต่ ตอนนั้นยังไม่มีโทรศัพท์ใช้ส่วนตัวค่ะ มีเเต่คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะไว้เล่นอินเตอร์เน็ต
พอมีเรื่องราวแปลกๆเกิดขึ้น จนเริ่มชิน ก็ไม่ได้สนใจอะไรมันได้ยินจนชิน กลัวจนชิน เเต่ถ้าถามว่าเลิกกลัวไหม ไม่ มันก็ยังกลัวเเบบเดิม บ้านนี้มันมีอะไรกันเเน่ โดยปกติแม่ แกจะชอบทำบุญของแกอยู่เเล้ว สวดมนต์ประจำก่อนนอน มีอยู่คืนนึงเเม่ฝัน ว่า แกเดินไปหลังครัว ประตูหลังครัวที่ออกหลังบ้านเเล้วเจอโรงรถได้ แกเห็น วิญญาณ ใส่ชุดโบราณๆ นุ่งโจงกระเบนลอยมาให้เเม่เห็น มีคนคอยรับใช้ทั้งซ้ายทั้งขวา เเล้วพูดขอบคุณแม่ ขอบคุณนะที่ทำบุญให้ แกเลยสดุ้งตื่น แล้วเล่าให้ฟัง ยิ่งอยู่ยิ่งหลอน น้องก็ชอบฝันว่าเห็นผีผู้หญิง นั่งบนหลังคาบ้านบ้าง ไล่ให้ ออกไป ไม่ให้อยู่ ผีผู้ชายหัวขาดบ้าง เขาไล่ไม่ให้อยู่ จนถึงคืนที่เป็นฝันที่เราฝัน ในความฝันเรายืนบนกลางรางรถไฟ ในฝันจะเดินออกก็เดินออกไม่ได้เหมือน ขาติดกับรางขยับไม่ออก รถไฟเกือบจะชนเราอยู่เเล้ว ในฝันตายเเน่กู สักเเปปมีควายเผือกตัวใหญ่มากๆ ใหญ่กว่าควายที่เลี้ยงปกติทั่วไป สัดส่วนลำตัวดูดีสวยสง่า ร้องเป็นเสียงควายดังมาก ออกมา เราสดุ้งและถามไปว่า มาช่วยใช่ไหมสิ้นเสียงควายเผือกร้อง ปุ๊บ เรากระเด็นออกจากรางรถไฟที่ยืนเเล้วกระเด็นออก ข้างทางสดุ้งตื่นทันที เราเลยเล่าให้พ่อฟัง ว่าในฝันมีควายสวยตัวใหญ่เขางามสง่ามาช่วยไว้ แค่ไม่กี่เมตร รถไฟจะชนร่างเราอยู่เเล้วอะ เเต่รอดมาได้ เพราะควายช่วย พอถามพ่อเลยรู้ว่าเป็นควายธนู ที่พ่อเลี้ยงบูชาไว้มาช่วย ซึ่งเป็นควายธนู (สายขาวที่ปลุกเสกจากวัดโดยพระอาจารย์ ที่วัดๆหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ )พ่อแกบอกแกบูชามาเอาไว้ปกปักรักษาคนในครอบครัว
พออยู่ได้2-3เดิอน แม่เเกเลยตัดสินใจหาบ้านเช่าใหม่ เพราะทนกับสิ่งที่มองไม่เห็นไม่ไหว พอถึงวันที่ย้ายออก เป็นความรู้สึกโล่งใจมาก จะไม่ได้เจออะไรแบบนี้อีกแล้ว จิตตกมาพอแล้ว เเล้วไม่ต้องตามไปนะอยู่ที่นี่ดีเเล้ว เป็นคำพูดที่เราพูดตอนย้ายออกจากบ้านเช่าหลังนั้น หลังจากย้ายออกคิดว่าจะไม่เจออะไรเเบบนี้เเล้ว .. เป็นบ้านเช่าที่เจ้าที่บ้านแรงมาก
✓✓ปัจจุบันบ้านหลังนี้ไม่ได้มีใครเช่าเเล้ว ไปดูมาล่าสุดคือมีเเต่ต้นไม้ขึ้นเต็มหน้าบ้านไปหมด แม่บอกว่าหลังจากที่เราไปเช่า เราเป็นคนเช่าเจ้าสุดท้าย เพราะคนเช่าก่อนหน้าที่เช่าไม่เคยมีใครเช่าได้นานเลยสักคน ออกหมดอยู่ไม่ได้ คงน่าจะเจอเเบบเดียวกันค่ะ
##ปล. ก็ยังเจออีก ย้ายไปที่นึง บ้านนี้ก็มีผี ไปอีกทีนึงก็เจอผีอีก เจอทุกที่ ที่ย้ายไปเช่า จนปัจจุบันได้มาซื้ออยู่ในชุมชนนึง เส้นถนน ลำปาง – แม่ทะ เหมือนเดิม ก็ไม่มีอะไรหลอนแบบที่เคยเจอ ไม่ต้องได้ย้ายไปเช่าบ้านใครอยู่อีกเเล้ว 🥹👻👻
จริงๆลงไว้ครบหมดเเล้วนะคะทุกคน บางคนก็เห็น
บางคนก็ไม่เห็น ตอนนี้ได้ลงต่อๆรวมๆกันไว้ตรงนี้เเล้วนะคะ ✅✅
✓✓ถนนเส้น ลำปาง – แม่ทะ บ้านเราจะอยู่เส้นนี้ค่ะ จากเเยกไฟเเดงศรีชุม มาจะเรียกชื่อถนนเเบบนี้ค่ะ อยู่ อำเภอเมืองลำปางนะคะ บางคนอ่านอาจจะงงหรืออาจจะเข้าใจผิดขออภัย 🙏ในการเล่าด้วยนะคะถ้าผิดพลาดตกบกพร่องส่วนไหน🥹🥹✓✓
.
เรื่องเล่าโดย : ปาณิ ‘สา
เครดิต : ชาวแก๊งเดอะโกสเตอร์~The Ghost Radio