จากกรณีมีการจับกุมรถบรรทุกพ่วงขนขยะมูลฝอยมาจาก จ.เชียงใหม่ ลักลอบเข้ามาทิ้งในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการออกใบส่งสินค้าไปทิ้งที่ศูนย์จัดการขยะฯ ของ อบจ.ลำปาง เป็นการตบตาเจ้าหน้าที่
น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายก อบจ.ลำปาง กล่าวว่า ในเรื่องนี้มีโอกาสได้คุยกับยนายอำเภอห้างฉัตร และรับทราบข้อมูลว่า มีการนำรถขนขยะมาจาก จ.เชียงใหม่ ของหน่วยงาน อบจ.เชียงใหม่ ลักลอบมาทิ้งในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร ซึ่งคาดว่าจะทำมาหลายครั้งแล้ว แต่ได้มีชื่อของ อบจ.ลำปางเข้าไปเกี่ยวข้อง เนื่องจากมีใบที่อ้างว่าได้รับจัดการขยะจาก อบจ.ลำปาง เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นใบที่นายกเทศมนตรีต้นธงชัยได้ออกให้จริง ซึ่งเป็นการออกให้กับบริษัทที่รับบริหารศูนย์จัดการขยะของ อบจ.ลำปาง เอกสารดังกล่าวให้อนุญาตเฉพาะการจัดการขยะ ไม่ใช่การอนุญาตขนย้ายขยะ เพราะฉะนั้นทางอำเภอห้างฉัตรได้ทำเรื่องแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ห้างฉัตรไว้แล้วตามขั้นตอนของกฎหมาย และได้มีการส่งฟ้องศาลแล้ว เบื้องต้นทราบว่ามีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท
นายก อบจ.ลำปาง กล่าวยืนยันว่า เราไม่มีนโยบายที่จะรับขยะจากต่างถิ่นเข้ามากำจัดในพื้นที่ เพราะ จ.ลำปางเองมีขยะจำนวนมากอยู่แล้ว ปัจจุบันศูนย์จัดการขยะฯ รองรับได้เดือนละ 300 ตันขึ้นไป ซึ่งมีส่งเข้ามากำจัดประมาณ 160 ตัน เนื่อจากเราทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดกว่า 90 แห่ง แต่มี อปท.ประมาณ 50 แห่งที่ส่งมากำจัด เพราะบางแห่งที่อยู่ไกล เช่น อ.วังเหนือ หรือ อ.แม่พริก ยังมีปัญหาเรื่องค่าขนส่งที่อาจจะไม่คุ้มทุนในการส่งมาที่ศูนย์จัดการขยะของเรา
จึงได้มีการวางแผนว่าจะทำสถานีขนถ่ายขยะตามจุดต่างๆที่เป็นเซนเตอร์ เช่นโซนเหนือ อาจจะตั้งที่ อ.แจ้ห่ม และ อ.งาว โซนใต้ ตั้งที่ อ.เถิน อยู่ระหว่างการหาพื้นที่อยู่ เพราะค่าขนส่งที่สูงทำให้ไม่สามารถส่งขยะมากำจัดได้อย่างเป็นระบบ ตั้งใจอยากให้ทุก อปท.ใน จ.ลำปางได้เข้ามาบริหารจัดการขยะที่นี่ ดีกว่านำไปฝังกลบแบบไม่ถูกสุขลักษณะตามป่า หรือบางแห่งมีการลักลอบทิ้ง ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัด ให้เข้มงวดกวดขันในการทิ้งขยะให้ถูกต้อง มีการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้นต่อไป.