เวลาประมาณ 02.45 น.เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุไฟไหม้กุฎิภายในวัดพรหมวิหาร ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ระหว่างเกิดเหตุมีพระภิกษุในวัดได้พบเห็นกลุ่มควันที่เกิดจากไฟไหม้บริเวณสำนักงานของวัด จึงรีบแจ้งเจ้าอาวาส และได้แจ้งให้เทศบาลตำบลแม่สายและเทศบาลเวียงพางคำ นำรถดับเพลิงออกไประงับเหตุ โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
นายเกรียงไกร คำพลศักดิ์ กรรมการวัดพรหมวิหารและกรรมการมูลนิธิพระครูพิทักษ์พรหมวิหาร เล่าเหตุการณ์ว่า ไฟไหม้ประมาณเวลา 02.45 น. ได้รับแจ้งจากพระลูกวัดจึงวิ่งมาดู และแจ้งดับเพลิง แต่ว่าไฟได้ลุกลามไปแล้ว ทำได้แค่เพียงสกัดให้อยู่ในวงแคบ ไฟไหม้ไหม้ไป 6 คูหา ส่วนประกอบทำจากไม้ประดู่และไม้สัก ความเสียหายสำคัญมีพระแสนแช่โบราณอายุ 800 ปี ส่วนสาเหตุต้องตรวจสอบอีกที รู้แต่เพียงว่าต้นเพลิงเกิดจากห้องที่ใช้เป็นสำนักงานเจ้าคณะตำบล ซึ่งมีเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่
ทางด้าน พระครูวิบูลธรรมวิมล เจ้าคณะตำบลเวียงพางคำเขต 1 และเจ้าอาวาสวัดพรหมวิหาร เล่าวว่า ไฟเริ่มต้นไหม้จากห้องที่ใช้เป็นสำนักงาน ไฟลุกไหม้ขยายเป็นวงกว้าง จนดับเพลิงมาฉีดน้ำดับไฟ อาคารที่ถูกไฟไหม้เดิมที่เรียกว่ากุฏิยาว สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2517 อาคารไม้สักและไม้ประดู่ ทำให้กลายเป็นเชื้อไฟเป็นอย่างดี ความเสียหายในตัวอาคารประเมินว่าประมาณ5 ล้านบาทส่วนองค์พระแสนแช่ อายุกว่า 800 ปีนั้นไม่สามารถประเมินค่าได้ นอกจจากนั้นยังมีของโบราณ วัตถุมงคลอีกมากมายที่ถูกไฟไหม้ ส่วนสาเหตุอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะเป็นห้องคอม อาจจะเปิดคอมเสียบคอมไว้
สำหรับวัดพรหมวิหาร เป็นวัดสังกัดมหานิกาย ตั้งอยู่ในพื้นที่ประมาณ 33 ไร่ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2514 มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้างตั้งแต่สมัยที่ “หลวงพ่อตี๋” หรือพระครูพิทักษ์พรหมวิหาร เป็นเจ้าอาวาส เนื่องจากหลวงพ่อตี๋ เป็นพระเกจิที่มีลูกศิษย์ให้ความศรัทธาเป็นจำนวนมาก.
ณัฐวัตร ลาพิงค์