ชาวบ้าน อ.เสริมงามร่วมคัดค้านเหมืองพลวง หวั่นกระทบแหล่งต้นน้ำชุมชน ในขณะที่ สอจ.ลำปาง และบริษัทขอประทานบัตร แจ้งยกเลิกเวทีรับฟังความคิดเห็นกระทันหัน

 

วันนี้ (23 สิงหาคม 2566) เวลา 08.30 น. ชาวบ้าน ต.เสริมขวา อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ประมาณ 300 คน ร่วมชุมนุมแสดงพลังคัดค้านการสร้างเหมืองแร่บ้านแม่เลียง หมู่ที่ 7 ต.เสริมขวา ณ ศาลาเอนกประสงค์บ้านแม่เลียง โดยก่อนหน้านี้เจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่ สำนักงานอุตสาหกรรม จังหวัดลำปาง (สอจ.) ได้ส่งหนังสือเชิญชาวบ้านร่วมรับฟังความคิดเห็นเรื่องการยื่นขอประทานบัตรทำเหมืองของบริษัท ทรัพย์ธรณี ลานนา จำกัด แต่กลับแจ้งยกเลิกล่วงหน้าเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง

นางเบญจวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 9 ต.เสริมขวา กล่าวว่า การที่คนในชุมชนออกมาคัดค้านเพราะบริเวณทำเหมือง 50 ไร่นั้นอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำแม่เลียง เป็นทรัพยากรน้ำที่ชาว อ.เสริมงาม ใช้ดื่มกินทำไร่ทำสวน การทำเหมืองจะส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำและสุขภาพของชาวบ้าน

“สมัยก่อนเคยมีการเข้ามาทำเหมืองแล้วน้ำในแม่น้ำเลียงเปลี่ยนเป็นสีแดง นำมากินไม่ได้ ถ้ามีรถขนแร่ก็จะทำให้ถนนเสียหาย ใครจะเอาเงินมาให้เท่าไรก็ไม่เอา ไม่เอาอะไรแล้วอยากให้ป่าไม้อยู่ไปแบบนี้” นางเบญจวรรณ กล่าว

ด้านชาวบ้านที่มาร่วมคัดค้านการสร้างเหมืองบ้านแม่เลียงรายหนึ่ง กล่าวว่า คนตำบลเสริมขวา 12 หมู่บ้าน และ ตำบลทุ่งงาม จะได้รับผลกระทบจากการสิ่งแวดล้อมมากที่สุดหากการทำเหมืองพลวงปล่อยน้ำจากการฉีดดินที่ขุดมาลงแม่น้ำเลียง แล้วแม่น้ำเลียงก็จะไหลผ่านชุมชนต่างๆลงไปรวมกับแม่น้ำวัง

“เรามีชาวบ้านหมู่ที่ 4 ร่วมลงชื่อคัดค้านการสร้างเหมืองวันนี้แล้ว 137 คน คัดค้านเพราะบ้านเราต้องใช้นำมากินมาใช้ ทำไร่ทำนา กลัวทำให้เกิดมลภาวะทางสิ่งแวดล้อมจนต้องไม่สบายเจ็บป่วย ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น ต้นปี 2517 เคยมีคนเข้ามาทำเหมืองแล้วฉีดน้ำเอาแร่ ตอนนั้นเก็บเกี่ยวข้าว 4 ไร่ได้ผลผลิต 35 กระบุง แต่พอช่วงที่ไม่มีการทำเหมืองเก็บข้าวได้มากกว่า 100 กระสอบ ถ้าบริษัทเข้ามาทำเหมืองแล้วเราจะกินอะไร ไม่สบายขึ้นมาก็ไม่มีเงินหาหมอ” ชาวบ้านหมู่ที่ 4 คนนี้กล่าว

นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านที่มาร่วมคัดค้านกล่าวด้วยว่า ได้ยินผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสายเมื่อเย็นวาน (22 สิงหาคม) ว่าบริษัทโทรแจ้งการเลื่อนเวลาทำเวทีรับฟังความคิดเห็นออกไปก่อน โดยติดต่อทางผู้ใหญ่บ้านให้ประสานคนในชุมชน คิดว่าถ้ามีการสร้างเหมืองจริงๆจะมีสารพิษจากการผลิตแร่พลวงหลายอย่าง เช่น สารตะกั่วที่ไหลลงน้ำ

ด้านนายสมหวัง อุดสร้อย หรือสหายทัพ อายุ 65 ปี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ทุกคนในชุมชนต้องร่วมกันคัดค้านการสร้างเหมืองวันนี้ไม่ให้ซ้ำรอยประวัติศาสตร์เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งการต่อสู้ครั้งนั้นทำให้มีชาวบ้านต้องเสียสละชีวิตเพื่อรักษาทรัพยากร

“ในอดีตเรามีวีรชนเป็นแกนนำในหมู่บ้านให้เอาเป็นตัวอย่างที่ไม่ห็นแก่เงินแค่ 400-500บาท รวมตัวกันแล้วเกิดกระแสคอมมิวนิสต์ขึ้นมา มี 20 กว่าคนต้องเข้าป่า ซึ่งช่วงนั้นผมอายุ 13 ปี ถ้าวันนี้จะตายเพื่อประชาชนผมยอมเสียสละ ผมไม่ใช่แกนนำคนเดียวแต่ชาวบ้านทุกคนต้องร่วมมือกัน สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือความสามัคคี ถ้าคนในชุมชนแตกแยกใครจะกลัว ชาวบ้านต้องร่วมต่อสู้ ไม่เอาก็คือไม่เอา” สหายทัพ กล่าว

ต่อมา เวลา 10.00 น. การรวมตัวคัดค้านการทำเหมืองของชาวบ้านบ้านแม่เลียงได้ย้ายจากศาลาเอนกประสงค์ ไปยังทางเข้าเหมืองที่บริษัทยื่นขอประทานบัตร และพาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ป่าตรวจดูแหล่งที่เคยถูกขุดหาแร่ ซึ่งปัจจุบันเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ และเป็นใจกลางต้นน้ำที่ บริษัท ทรัพย์ธรณี ลานนา จำกัด ได้ยื่นขอประทานบัตรกับสำนักงานอุตสาหกรรม จ.ลำปาง