พิษไฟป่ากระทบระบบนิเวศน์ทั้งคน สัตว์และผืนป่าเสียหายหนัก

 

แม้ไฟป่าเริ่มลดลงในบางพื้นที่ แต่เจ้าหน้าต้องเร่งสำรวจความเสียหายใหม่ทั้งระบบ พบสูญเสียทั้งต้นไม้ ป่าไม้ที่สมบูรณ์จนยากต่อการเยียวยา ที่หนักกว่านั้นพบสัตว์ป่าถูกไฟป่าคลอกตาย พบบางส่วนเพียงน้อยนิดที่หลงเหลือรอดจากความโหดร้ายของน้ำมือมนุษย์

ตลอดช่วงของวันที่ 20-21 เมษายน 2566 นายนิกร แก้วโมรา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระดมกำลังของเจ้าหน้าที่ชุดลาดตะเวนเชิงคุณภาพ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ออกปฏิบัติการลาดตระเวน ป้องกันการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ และเข้าดับไฟป่าที่มีบางจุดที่มีผู้คนพยายามแอบลักลบอกลับเข้าไปเผาป่าอีกครั้ง ส่วนหนึ่งมาจากต้องการกลั่นแกล้งการทำงานของเจ้าหน้าที่ บางส่วนหวังเข้าไปเผาเพื่อต้องการพื้นที่ทำกิน ที่กำลังกลายเป็นปัญหาสำคัญ ที่ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนกำลังจับตามองถึงพฤติกรรมของการลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างหนัก

ขณะลาดตระเวนในผืนป่าครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้พบกับ “ลูกนกเค้ากู่” ร้องโหยหวนอยู่บริเวณพื้นดิน คาดว่าแม่นกได้รับผลกระทบจากไฟป่าลุกโหมไหม้อย่างหนักช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางแม่นกคงต้องจำยอมทิ้งรังและลูกน้อยหนีไฟไป จนทำให้ลูกนกหิวและเห็นเจ้าหน้าที่เลยพยายามจะตะเกียกตะกายออกจากรังเพื่อหาอาหาร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เร่งให้การอนุบาลในเบื้องต้นพร้อมกับรีบได้ นำลูกนกส่งศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าปางตอง เพื่อตรวจอาการและเพาะเลี้ยงให้สมบูรณ์เพื่อนำคืนสู่ป่าต่อไป นอกจากนี้ไม่ห่างกันนักในบริเวณใกล้เคียงพบ ซากลูกนางอาย ซึ่งตายได้ไม่นานคาดว่าสาเหตุการตายเกิดจากการขาดอาหารและน้ำเนื่องจากความร้อนของไฟป่า ทั้งนี้ผลกระทบจากไฟป่าไม่ได้ส่งผลกระทบในด้านหมอกควันและฝุ่นละออง ยังส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งทำให้สัตว์ป่าล้มตาย ขาดอาหาร ไร้ที่อยู่อาศัย เป็นภาพที่สลดหดหู่กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก และคาดว่าน่าจะพบความสูญเสียทั้งสัตว์ป่าและผืนป่าไปกับไฟป่าในครั้งนี้อย่างมหาศาล ซึ่งก็ยังรวมถึงพืชหรือต้นไม้บางชนิดที่ไม่มีความสามารถทนทานความร้อนได้ล้มตายทำให้ระบบนิเวศน์ศูนย์เสียความสมดุลอีกด้วย

วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน – รายงาน