เชือดแล้วคนฝ่าฝืนบุกรุกแผ้วถางต้นเหตุหมอกควันขัดคำสั่งจังหวัดรวบคาของกลาง

 

วันนี้ 25 มีนาคม 2566 เวลา 11.30 น. นายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารจุดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน นำโดยนายนิกร แก้วโมรา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย และเจ้าหน้าที่ ศปป.ที่ 3 ภาคเหนือ (นปป.2 แพร่)ได้ร่วมกันออกลาดตระเวนเพื่อดับไฟป่าและการกระทำผิดกฏหมายว่าด้วยการป่าไม้ หลังมีรายงานจากสายข่าวว่ามีการลักลอบแผ้วถางป่าพร้อมกับเผาขยายพื้นที่ทำกินโดยไม่เกรงกลัวกฏหมายและฝ่าฝืนคำสั่งมาตรการห้ามเผาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

จนกระทั่งได้ตรวจพบชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งเป็นสามี-ภรรยากัน (ขอสงวนนาม) กำลังสุมไฟเผาไม้และวัชพืช บริเวณป่าบ้านกึ๊ดสามสิบ หมู่ 6 ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน และเจ้าหน้าที่ตรวจบริเวณดังกล่าวพบเป็นพื้นที่บุกรุกใหม่มีการโค่นไม้ใหญ่จำนวนหนึ่งต้น และเก็บริบสุมเผาไม้ พบอุปกรณ์ประกอบด้วยเลื่อยโซ่ยนต์จำนวน 1 เครื่อง ไฟแช็ก 1 อัน มีด 1 เล่ม จักรยานยนต์ 1 คัน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในโครงการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินในเขตป่าอนุรักษ์ จึงลงความเห็นว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่ใหม่จำนวน 1-3-96 ไร่
จึงได้นำตัวทั้งสองคนมาดำเนินคดี ตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 55 ฐาน “ยึดถือครอบครองที่ดินก่อสร้างแผ้วถาง เผาป่า หรือทำด้วยประการใดให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติเดิมในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต “กระทำผิด พรบ.ป่าไม้ พุทธศักราช2484 มาตรา 11 ฐาน “ทำไม้โดยไม่รับอนุญาต “มาตรา 54 ฐาน “บุกรุกแผ้วถางป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต” มาตรา 69 ฐาน “มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” พรบ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 มาตรา 4 ฐาน “มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จึงนำตัว ทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปางมะผ้า พร้อมบันทึกจับกุมดำเนินคดีทันที ซึ่งถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดรายแรกที่ถูกจับกุมดำเนินคดีได้แบบคาหนังคาเขา

ในขณะที่สถานการณ์ไฟป่าหมอกควันของจังหวัดแม่ฮ่องสอนวันนี้ก็ยังคงหนักแทบทุกพื้นที่ ทั้งสภาพอากาศที่ร้อนจัด หมอกควันคละคลุ้งแทบทั้งวัน โดยเฉพาะในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนค่าใุ่นละอองในอากาศรอบ 24 ชั่วโมง วัดค่า pm2.5 พุ่งสูงถึง 262 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาที่อำเภอปาย 243 และที่อำเภอแม่สะเรียง 191 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรตามลำดับ กลายเป็นปัญหาหนักของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ยังคงตรวจพบการลักลอบจุดไฟเผาป่าในพื้นที่ป่าลึกหรือตามแนวสันเขาสูงชัน สาเหตุหลักนอกจากลอบเผาเพื่อล่าสัตว์หรือหาของป่าแล้ว ยังพบว่ามีการลอบเผาเพื่อกลั่นแกล้งเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา และหากฝนยังคงทิ้งช่วงนานมากกว่านี้หลายฝ่ายเกรงจะควบคุมได้ยาก จากปัจจัยจากเศษใบไม้หรือเชื้อเพลิงในป่าอยู่ในสภาพแห้งจัดพร้อมที่จะลุกไหม้ได้ทันที
ส่วนการรับมือนั้นขณะนี้ทำได้เพียงเสริมกำลังเสือไฟเข้าทุกพื้นที่เสี่ยงสำคัญๆ และในตัวเมืองก็ทำการฉีดพ่นละอองน้ำขึ้นสู่บรรยากาศเท่านั้นเอง.

วิรัตน์ แม่ฮ่องสอน – รายงาน