เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ตร.บก.ปทส. โดย การอำนวยการชอง พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส.สั่งการให้ พ.ต.ท.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส.วางแผนก่อนที่จะเข้าไปตรวจสอบ กรณีได้รับการ้องเรียนว่ามีโรงงานแปรรูปไม้ที่ตั้งใจกลางชุมชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ได้รับผลกระทบทั้งเสียงการแปรรูปไม้ การขนย้ายไม้ท่อนเข้าออก และฝุ่นจากการแปรรูปไม้กระจายไปทั่วพื้นที่ส่งผลกระทบอย่างมาก จึงร้องเรียนขอให้ไปตรวจสอบโดยในเบื้องต้น
เจ้าหน้าที่ได้ประชุมวางแผนเตรียมพร้อมก่อนเข้าไปตรวจสอบและได้มีการ ประสานงาน นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง ผู้อำนวยการศูนย์ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้ จังหวัดลำปาง สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.14 (แม่ทะ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ที่ 33 เชียงใหม่ เพื่อขอกำลังเสริมเข้าร่วมตรวจสอบในครั้งนี้โดยเมื่อเจ้าหน้าไปถึงยังจุดเกิดเหตุ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 5 ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบเป็นโรงงานขนาดกลาง มีคนงานชายหญิงประมาณ 7-8 คนกำลังแปรรูปไม้และประกอบไม้สิ่งประดิษฐ์ที่ทำมาจากไม้ เพื่อที่จะส่งขายไปยังพื้นที่ภาคกลางและภาคอีกสาน โดยมีออเดอร์สั่งเข้ามาจำนวนมาก และจากการสอบถามคนงานทราบว่า เจ้าของเป็นผู้หญิง ขณะนี้กำลังไปขนไม้ท่อนที่ต่างอำเภอ เพื่อที่จะนำมาเก็บที่โรงงานแห่งนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานงาน ให้ทางเจ้าของกลับมายังโรงงาน ก่อนที่เจ้าของโรงงานจะนำเอกสารหลักฐานต่างๆมาแสดงแก่เจ้าหน้าที่
จากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น พบว่าโรงงานได้ขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย แต่พบว่ามีการขยายโรงงานและตั้งเครื่องจักรเพิ่มโดยไม่ขออนุญาต แม้ว่าเครื่องจักรจะไม่เกินกฎหมายกำหนด แต่การขยายโรงงานออกไปทำผิดเงื่อนไข เจ้าหน้าที่จึงสั่งอายัดเครื่องจักรและไม้แปรรูปที่พบในที่เกิดเหตุทันที ขณะเดียวกันยังพบว่ามีกองไม้สักขนาดต่างๆ รวมไปถึงไม้ประดู่ ไม้สีเสียด ไม้พวง มากกว่า 700 ท่อน กองอยู่ที่ดินว่างเปล่าใกล้โรงงาน ซึ่งทางเจ้าของโรงงวานแปรรูปไม้แจ้งว่าเป็นของตนเองทั้งหมด โดยไปกว้านซื้อมาจากพื้นที่ อ.เสริมงาม ในที่ดินมีโฉนด 2 แปลง นส.3 ก. อีก 2 แปลง มูลค่าทั้งหมดเกือบ 5 แสนบาท เอามากองไว้ เพื่อที่จะทำสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ
เจ้าหน้าที่จึงให้นำเอกสารหลักฐานการขึ้นทะเบียนการจดแจ้งไม้เข้าออก ปรากฏว่า มีเอกสารการขึ้นทะเบียนจริง แต่การจัดแจ้งไม่ตรงตามเอกสาร เพราะกองไม้มีมากว่า 700 ท่อนแต่มีการจดแจ้งเพียง 150 ท่อน เจ้าหน้าที่ จึงสั่งอายัดกองไม้ทั้งหมดรวมไปถึงไม้ที่กองภายในโรงงานเพื่อให้ทางเจ้าของนำเอกสารหลักฐานต่างๆมาแสดงให้ครบถ้วนตามกระบวนการกฎหมาย ขณะที่เจ้าหน้าทีได้ควบคุมตัวเจ้าของโรงงานไปแจ้งขอกล่าวหา และส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ทะ ดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดลำปาง มีคำสั่งให้ปิดโรงงานแปรรูปนี้ 30 วัน เพื่อที่จะเร่งตรวจสอบเรื่องร้องเรียนและการแก้ไขต่างๆให้เสร็จสมบูรณ์ต่อไปถึงจะให้เปิดดำเนินการได้