เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 เวลา 10.30 น. นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ทายาทนายชูชาติ กัลมาพิจิตร หรือพ่อเลี้ยงปางช้างแม่สา ได้เดินทางไปถวายเพล ที่วัดบ้านท่อ ตำบลป่าตัน อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยได้นำภัตตาหารเพลไปถวายพระครูอาทรสังวรคุณ เจ้าอาวาสวัดบ้านท่อ เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับนายชูชาติ กัลมาพิจิตรผู้เป็นบิดา นายชูชาติได้เสียชีวิตลงเมื่อต้นปี 2562 ทิ้งมรดกนับพันล้าน และปัญหาการจัดการมรดกไว้จนถึงปี 2565 ก็ยังจัดการไม่ได้ สร้างความเดือดร้อนให้กับช้างจำนวน 68 เชือกรวมถึงกิจการปางช้างแม่สาของครอบครัว ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ไร้ซึ่งนักท่องเที่ยว ประสบสภาวะขาดทุนสะสมมานานหลายปี ซึ่งทุกวันนี้นางอัญชลี กัลมาพิจิตรต้องทุกข์ใจกับปัญหาที่มีกับผู้จัดการมรดกร่วม ซึ่งยังคงเดินหน้าฟ้องร้องเรียกสินสมรสจำนวน 300 ล้านบาท และมักใช้เป็นข้ออ้างว่าคดีนี้ยังอยู่ในศาล
ในวันนี้นางอัญชลี กัลมาพิจิตรได้กล่าวถึงการมาทำบุญว่า “ เดิมนายเชิด กัลมาพิจิตร บิดานายชูชาติ ผู้เป็นปู่ของตนมีบ้านอยู่ที่บ้านท่อ ตำบลป่าตัน และทุกครั้งที่มีการทำบุญบ้าน คุณปู่จะนิมนต์เจ้าอาวาสวัดบ้านท่อไปที่บ้าน ดังนั้นเจ้าอาวาสคนปัจจุบันของวัดแห่งนี้จึงคุ้นเคยกับทางครอบครัวตนดี ท่านรู้จักทั้งคุณปู่และคุณพ่อ” ตนจึงมักจะมาทำบุญที่วัดแห่งนี้ เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้บิดารวมถึงญาติที่ล่วงลับไปแล้ว และในทุกครั้งเจ้าอาวาสจะให้พรตนเพื่อให้มีกำลังใจในการเลี้ยงดูช้างต่อไป ในวันนี้ตนได้อธิษฐานจิตขอให้บิดาได้ช่วยตนขจัดปัญหาต่างๆ ขอให้ตนสามารถจัดการทรัพย์สินได้ตามพินัยกรรมโดยเร็ว ตนจะได้นำเงินและทรัพย์สินของบิดาไปแก้ไขปัญหาต่างๆของบริษัท ปางช้างแม่สา จำกัด ทั้งชำระหนี้และนำไปเป็นทุนหมุนเวียนตามความประสงค์ของบิดาที่เขียนไว้ในพินัยกรรม
ตนคิดว่าบิดาน่าจะเป็นห่วงช้างทุกเชือกและพนักงานทุกคน เพราะเป็นคนก่อตั้งปางช้างแม่สา มาตั้งแต่ปี 2519 ย่อมมีความผูกพัน โดยตนจะพยายามอดทนต่อทุกปัญหา เพราะครอบครัวเราเป็นคนเลี้ยงช้าง เลี้ยงกันมาเกือบจะครบ 50 ปีแล้ว จะให้ทอดทิ้งช้างซึ่งเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวคงเป็นไปไม่ได้ ถึงปัญหาจะหนักขนาดไหน ตนก็ต้องสู้ต่อไป เพื่อช้างและเพื่อปางช้างแม่สาของคนเชียงใหม่
ส่วนในวันที่ 29 กันยายนนี้ ตนก็ต้องไปตามนัดของผู้จัดการมรดกร่วมที่นัดตนไปโอนที่ดินในเขตอำเภอเมืองให้กับปางช้างแม่สาตามพินัยกรรมแต่เขาให้ตนหาเงินไปเป็นค่าธรรมเนียมในการโอนเอง ตนคิดว่าเขาไม่น่าจะใจร้ายกับตน ซึ่งเป็นบุตรสาวแท้ๆของนายชูชาติ ตนไม่อยากคิดและไม่พยายามจะเข้าใจคนเหล่านี้ ตนจะเอาเวลาไปคิดแก้ไขปัญหาดีกว่า ท้ายสุดนางอัญชลีกล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนปิดท้ายการให้สัมภาษณ์ว่า”ตอนนี้สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือตนห่วงเรื่องความปลอดภัยของตนเอง ขอให้ช่วยดูแลตนด้วย”
นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่