วันที่ 19 ก.ย. 65 ที่ ห้องประชุม โรงแรมกรีนเลครีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ พลโทบุญยืน อินกว่าง แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ เป็นประธานการประชุมคณะปฏิบัติการร่วมด้านการสกัดกั้น ปี 2565 ของศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือที่จัดขึ้น เพื่อสรุปผลการปฏิบัติของหน่วยงานร่วมด้านการสกัดกั้น ตั้งแต่ปี 2562 -2565 พร้อมปรับแผนการสกัดกั้นให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วย กองนเรศวร ,กองกำลังผาเมือง,ตำรวจภูธรภาค 5 ,กองบังคับการปราบปรามยาเสพติดที่ 3 ,กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 และหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขงเขตเชียงราย
พลโทบุญยืน อินกว่าง แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบันพบว่ายังคงมีการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ตอนใน ที่มีการลำเลียงปะปนมากับสินค้าทางการเกษตร โดยกลุ่มม้ง กลุ่มคนพื้นที่ภาคกลาง และภาคใต้ ที่ขึ้นมาลำเลียงยาเสพติด โดยกลุ่มขบวนการจะใช้วิธีการลำเลียงผ่านระบบโลจิสติกส์ของบริษัทขนส่งเช่นเคย
นอกจากนี้ในเมียนมา มีการตรวจยึดเคมีภัณฑ์เป็นจำนวนมากในพื้นที่รัฐฉาน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ผลิตยังคงมีเสรีในการผลิตยาเสพติดในเขตพื้นที่อิทธิพลของตนเอง ส่งผลให้ด้านเมียนมาจะยังคงมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
สำหรับสถานการณ์ใน สปป.ลาว นั้น จากการที่รัฐบาล สปป.ลาว มีนโยบายให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยเพิ่มความเข้มข้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจยาเสพติด 24 ชั่วโมง ที่บ้านน้ำเกิ๋ง เขตติดต่อเมืองต้นผึ้ง-เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ทำให้การลำเลียงยาเสพติดเส้นทางนำเข้าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยมีความยากยิ่งขึ้น ทำให้กลุ่มขบวนการใช้การลำเลียงยาเสพติดข้ามแม่น้ำโขงเข้าสู่เขตไทย ในพื้นที่ อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ จว.ช.ร. มากขึ้น โดยพบว่าเดือนที่ผ่านมามีการจับกุมที่สำคัญ 4 ครั้ง ของกลางยาบ้ากว่า 20,964,000 เม็ด และ ไอซ์ 150 กก
ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2562 -2565 ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ มีผลการปฏิบัติของหน่วยงานร่วมด้านการสกัดกั้นที่สำคัญในหลายพื้นที่และ สามารถจับกุมผู้ต้องหา 2,912 ราย ตรวจยึด ยาบ้า 498 ล้านเม็ดเศษ (498,815,385), ไอซ์ 4,658 กิโลกรัม, เฮโรอีน 344 กิโลกรัม และ เคตามีน 452 กิโลกรัม นอกจากนี้ได้ร่วมบูรณาการปิดล้อมตรวจค้น ขยายผลยึดทรัพย์คดียาเสพติดรายสำคัญ มูลค่า 4 พันล้านบาท