นายกตวงรัตน์ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนชาวบ้านแค่ หมู่1 ตำบลบ้านเป้า หลังสำรวจพบสะพานเดิมสร้างนาน หวั่นไม่ปลอดภัยต่อชีวิตประชาชน

 

วันที่ 13 กันยายน 2565 น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายก อบจ.ลำปาง ลงพื้นที่ไปยังบริเวณสะพานบ้านแค่ ม.1 ต.บ้านเป้า อ.เมืองลำปาง ภายหลังได้รับการรายงานข้อมูลความเดือดร้อนของชาวบ้านจากนายพิษณุพล ประสาน รองนายก อบจ.ลำปาง และนายนิธิกร ธรรมลังกา สมาชิกสภา อบจ.ลำปาง อ.เมืองลำปาง เขต 9

โดยนายพิษณุพล ประสาน รองนายก อบจ.ลำปาง นายนิธิกร ธรรมลังกา สมาชิกสภา อบจ.ลำปาง อ.เมืองลำปาง เขต 9 นายลัพธวิทย์ จรรยาวิจิตร เลขานุการนายก อบจ.ลำปาง นายธีทัติ ธรรมธิกูล ผอ.กองช่าง น.ส.จิรพรรณ ศรีนวลฟูต๊ะ หัวหน้าฝ่ายสำรวจและออกแบบ นายวัฒนา สอนดี หัวหน้าฝ่ายก่อสร้างและซ่อมบำรุง พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ โดยมีคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ อบต.บ้านเป้า และชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ต.บ้านเป้า นำโดยนายณัฐวุฒิ จันทร์ใส กำนัน ต.บ้านเป้า และชาวบ้านร่่วมต้อนรับและรายงานข้อมูล

หลังจากลงพื้นที่สำรวจสะพานดังกล่าวแล้ว ได้พบปะกับชาวบ้านและผู้นำในพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อน โดยชาวบ้านมีความต้องการให้ อบจ.ลำปางดำเนินการสร้างสะพาน เนื่องจากสะพานที่ใช้ในปัจจุบันมีสภาพทรุดโทรม เพราะก่อสร้างมานาน และเป็นเส้นทางหลักในการสัญจรในพื้นที่

นายกตวงรัตน์​ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับฟังข้อมูลจากรองนายกฯพิษณุพล และ สจ.นิธิกร และกองช่างได้ทำการสำรวจแล้วแต่เนื่องจาก อบจ.ลำปางมีพื้นที่ในการดูแลทั้ง 13 อำเภอ ซึ่งการดำเนินโครงการใดก็ตามจะพิจารณาตามความจำเป็นเร่งด่วนตามสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น แต่วันนี้เมื่อได้ลงสำรวจพื้นที่แล้วพบว่า สะพานก่อสร้างมานาน เก่าเสื่อมโทรม และเป็นเส้นทางหลักในการสัญจร จึงมองเห็นปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านและเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข จะได้จัดสรรงบประมาณ เบื้องต้น กองช่าง อบจ.ลำปางได้ทำการสำรวจออกแบบไว้ประมาณกว่า 5 ล้านบาทรวมพนังป้องกันตลิ่ง ซึ่งได้ดำเนินการมาแล้ว 2 ปี ก็จะต้องมีการปรับปรุงแบบ และจะได้ดำเนินการนำเรื่องสะพานเข้าในงบประมาณของ อบจ.โดยจะพยายามทำให้รวดเร็วที่สุด เพราะปีนี้ปริมาณน้ำและอุทกภัยมากและบ่อยครั้ง หากสะพานไม่มีความมั่นคงแข็งแรงก็จะเป็นอันตรายต่อประชาชน จึงจะรับไปดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องชาว ต.บ้านเป้าต่อไป

ภายหลังที่นายกตวงรัตน์กล่าวจบ ชาวบ้านและผู้นำพื้นที่ได้ปรบมือแสดงความดีใจ เนื่องจากสะพานถือเป็นปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านและรอการแก้ไขมาเป็นเวลานาน