กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม.,พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน.,พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส.,สั่งการให้ พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รักษาราชการแทน ผกก.บก.ปคม. พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก. และ พ.ต.ต.ปภาณ บุตรดีขันธ์ สว.กก.4 บก.ปคม. นำกำลังชุดสืบสวน ชป.2 ตำรวจสอบสวนกลาง และชุดสืบสวน สภ.แม่แฝก สภ.แม่ริม เชียงใหม่ ทำการจับกุมชาย อายุ 43 ปี ชาว ต.สะลวง อ.แม่ริม เชียงใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 4 หมายจับ คือ ตามหมายจับศาลจ.เชียงใหม่ที่ 527/2557 หมายจับที่ 30/2558 หมายจับที่ 31/2558 และหมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ที่ 150/2558 ในความผิดฐาน “ทำการวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การทำผิดและพาทรัพย์นั้นไปเพื่อพ้นการจับกุม” ที่โรงงานน้ำดื่มแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย
สืบเนื่องจากผู้ต้องหารายดังกล่าว เมื่อประมาณกลางปี 2557 ให้การว่าตนตกงานไม่มีงานทำและติดการพนันอย่างหนัก จึงคิดหาหนทางหาเงินใช้จ่ายโดยใช้วิธีการออกชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำ ในหลายพื้นที่ เช่น อ.สันทราย อ.แม่ริม และ พื้นที่ ต.แม่แฝก จ.เชียงใหม่ โดยเลือกเหยื่อเป็นหญิง ที่สวมสร้อยคอทองคำในเวลากลางวัน และออกมาเดินตลาดหรือไปตลาด โดยสวมหมวกกันน๊อคคลุมหน้าขับรถสวนทางเพื่อดูลาดเลาก่อน1ครั้ง พอสบโอกาสก็ขับรถ จยย. เข้าประชิดและทำการกระชากสร้อยคอดังกล่าว
โดยได้ทรัพย์สิน เป็นสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2บาท 2 ครั้ง ครั้งที่ 3 ได้ทองคำหนัก 1บาท ส่วนครั้งสุดท้ายในเขต สภ.แม่ริม ตนได้ก่อเหตุกระชากสร้อยคอจนทำให้รถ จยย.ผู้เสียหายล้มลง พร้อมกับเด็กเล็กที่มาด้วยได้รับบาดเจ็บและสร้อยคอขาดตกลงพงหญ้าจึงไม่ได้ทรัพย์สินแต่อย่างใด
หลังจากนั้นได้หลบหนีออกมาจากพื้นที่ ตระเวนเช่าที่พักหลบหนี พื้นที่ พะเยาและเชียงราย รวมระยะเวลา 8 ปี จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง และตนเป็นผู้ก่อเหตุแต่เพียงผู้เดียวไม่มีผู้อื่นร่วมขบวนการด้วย จึงควบคุมตัวลงบันทึกการจับกุมที่ สภ.เมืองเชียงราย ก่อนที่จะ ควบคุมตัวนำส่ง สภ.แม่แฝก ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
