ผบช.ภ.5 นำทีมคืนเงิน 1.9 ล้านให้ผู้เสียหายที่ถูกแก็งค์คนดำ หลอกลวงทางเฟสบุ๊ค

 

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส. (ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ) ให้ดำเนินการกวาดล้างและจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่างๆ นั้น

 

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 65 เวลา 13.00 น.ที่ สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเขียงใหม่ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ,พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก ได้ร่วมกันคืนเงินจำนวน 1,9270,000 บาท ให้กับผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายฉ้อโกงทรัพย์

 

สืบเนื่องจาก เมื่อกลางปี 64 ได้มีผู้เสียหายถูกแก๊งค์ชาวต่างชาติรวมกับคนไทยหลอกลวงเงินโดยใช้วิธีติดต่อผ่านทาง Facebook โดยคนร้ายแจ้งว่าเป็นศัลยแพทย์ทหาร กองทัพสหรัฐ ทำงานอยู่ประเทศซีเรีย และได้ลาออกจากราชการ และจะส่งเงินจำนวนมากไปที่สหรัฐ แต่ส่งไม่ได้เพราะอยู่ในภาวะสงคราม และไม่มีญาติพี่น้องอยู่ที่สหรัฐ อีกทั้งตนเองมีบุตรสาวอีกด้วย จึงขอให้ผู้เสียหายช่วยเหลือ โดยจะส่งเงินสดประมาณ ๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาทางพัสดุ และจะต้องส่งโดยเร่งด่วน หากล่าช้าจะมีการตรวจพบของเจ้าหน้าที่ ผู้เสียหายเห็นใจจึงให้รับปากช่วยเหลือ

ต่อมา คนร้าย ได้แจ้งว่าได้ส่งพัสดุที่มีเงินสดจำนวนดังกล่าวและถึงประเทศไทยแล้ว และตนเองจะเดินทางตามมาในภายหลัง อีกทั้งจะมาอยู่อาศัยที่ประเทศไทยด้วย โดยได้ส่งเอกสารใบส่งของบริษัท PERCEL FORCE WORLDWIDE ซึ่งระบุชื่อ นายอเล็กซ์ วิลเลี่ยม (Alex Williams) ซึ่งเป็นชื่อเฟซบุ๊กอีกชื่อหนึ่งที่ คนร้ายใช้งาน เป็นผู้ส่งโดยระบุส่งมาถึงผู้เสียหายจากประเทศซีเรีย มาที่ประเทศไทย เมื่อระหว่างวันที่ ๒๓ – ๒๕ เมษายน ๒๕๖๔ เมื่อผู้เสียหายเห็นเอกสารดังกล่าว จึงเชื่อโดยสนิทใจว่ามีการส่งพัสดุมาจริง ในเวลาต่อมาได้มีผู้ชายและผู้หญิง ได้โทรศัพท์มาหาโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งพัสดุ แต่ไม่ทราบว่าที่ใด แจ้งว่ามีพัสดุที่ส่งมาถึงผู้เสียหาย แล้วอยู่ที่บริษัทฯ และอ้างว่าหากจะขอรับพัสดุดังกล่าว จะต้องเสียค่าภาษีทั้งของประเทศไทย และของประเทศอื่นๆ อีกหลายครั้ง อาทิเช่น ค่าภาษี, ค่าประกัน, ค่าดำเนินการกรณีให้เจ้าหน้าที่ (องค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น) มารับรองเพื่อทำให้เงินที่ส่งมาทางพัสดุเป็นเงินที่ถูกต้อง และค่าจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในการนำพัสดุ หรือเงินมาส่งให้โดยตรง แต่จะเป็นเงินที่ไม่สามารถใช้ได้ทันที เป็นธนบัตรสีดำต้องใช้น้ำยาชนิดพิเศษในการเช็ดหรือล้างธนบัตรดังกล่าว จึงจะทำให้เป็นเงินที่นำออกมาใช้ได้ โดยกลุ่มคนร้ายได้ส่งหมายเลขบัญชีธนาคารที่ผู้เสียหายจะต้องโอนเป็นค่าดำเนินการต่างๆมาเป็นข้อความทางแอพพลิเคชั่นแมสเซ็นเจอร์ และทางไลน์ โดยผู้เสียหายมีการโอนเงิน ๑๕ ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น เงินค่าเสียหายทั้งสิ้น ๘,๖๘๖,๐๐๐ บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการจับกุมตัว ชายชาวต่างชาติ เชื้อชาติ/สัญชาติไนจีเรีย ได้พร้อมธนบัตรสีดำ ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดอีกจำนวน 2 คน ซึ่งได้จับกุมแล้ว 1 คน อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมอีก 1 คน โดยศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้มีคำพิพากษาให้จำคุก ชายชาวต่างชาติและหญิงไทยที่ถูกจับกุมเป็นเวลา 5 ปี

คดีนี้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนด้วยความรวดเร็ว จนสามารถอายัดเงินในบัญชีม้าก่อนที่เงินจะถูกโอนออกไปจำนวน 1,927,000 บาทซึ่งพนักงานสอบสวนได้ประสานกับทางธนาคารฯ เพื่อนำเงินที่ผู้เสียหายถูกหลอกไป กลับคืนให้กับผู้เสียหาย การประสานใช้เวลานานเกือบ 1 ปี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวนได้รับเช็คเงินสดจำนวน 1,927,000 บาท จากธนาคารฯ เพื่อนำคืนให้กับผู้เสียหาย ซึ่งในวันนี้ ตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก และ จนท.ศปอส.ภ.5 ได้ร่วมกันคืนเงินดังกล่าวให้กับผู้เสียหาย

ตำรวจภูธรภาค 5 ขอชื่นชมการทำงานของทีมพนักงานสอบสวน ทีมชุดจับกุมขยายผลทุกนายที่ร่วมแรงร่วมใจกันในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนอย่างแท้จริง

นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่