ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมแก้ปัญหา สำนักพระบิดาเถื่อน ลัทธิ กินขี้ฉี่ สะเลดน้ำลาย เริ่มทะยอยนำซากศพจำนวน11ศพ ออกจากพื้นที่
เวลา 10.00 น.พลตำรวจตรีฉลอง สุขจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนายอำเภอคอนสาร และกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งทหารตำรวจมูลนิธิกูภัยต่างๆรวมกว่า100คน เดินทางเข้าไปยังสำนักพระบิดา ที่ตำบลดงบัง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ มีญาติผู้เสียแจ้งไปยังสื่อ เพื่อขอให้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงของสำนักพระบิดา ที่มีชาวบ้านหลงเชื่อและศรัทธา เดินทางมาจากทุกสารทิศ เพื่อมาทำการรักษาตัว โดยใช้วิธีรักษาแบบพิศดาร แตกต่างจากการรักษาโรคที่ขัดต่อหลักวิชาการทุกเรื่อง เช่นการดื่มน้ำปัจสาวะ ดื่มน้ำอุจาระ ดื่มนำลายและสะเลด ตลอดจนเศษเหงื่อไคร ที่พระบิดาถูออกมาจากร่างกาย โดยเชื่อว่าเป็นยารักษาโรค
ทั้งนี้ยังพบว่าที่ใต้โรงศพจะมีท่อสายยางต่อลงมาใส่ถังหรือแกลลอนเพื่อให้น้ำเหลืองจากศพไหลเข้าไปอยู่ภายในนั้นจากการสอบถามทราบว่าชาวบ้านที่มารักษาตัวนำน้ำเหลืองมาทาหน้าเพื่อเป็นการรักษาผิวให้ดูดี จนในที่สุดหมอปลา และผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้เข้าทำการควบคุมตัวนายทวี หนันรา อายุ75 ที่อ้างตนว่าเป็นพระบิดา ของทุกศาสนามาทำการสอบสวนที่สภ.คอนสาร ซึ่งนอกจากจะมีการรักษาโรคแบบพิสดารแล้ว ยังพบว่ามีซากศพจำนวน11ศพ บรรจุในโลงศพอีกด้วย
เมื่อถึงพื้นที่ที่เกิดเหตุพลตำรวจตรีฉลอง สุขจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายกระจายกำลังเข้าทำการตรวจค้นอย่างละเอียดตามที่ได้มีการประชุมวางแผนไว้ ซึ่งเป้าหมายหลักคือการตรวจสอบ ซากศพที่บรรจุอยู่ในโรงศพ และคาดว่าอาจมีการนำไปฝังไว้ตามพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องใช้และสิ่งอื่น ที่อาจเชื่อมโยงไปสู่การกระทำความผิดด้านอื่นๆ เนื่องจากยังมีศพเพื่อจะทำการตรวจ และพิสูจน์รวมถึงน้ำหมักที่อ้างว่ารักษาโรคต่างๆ ได้ หากตรวจสอบพิสูจน์ได้ว่ามีการเชื่อมโยง จนเป็นเหตุให้เกิดการเสียชีวิต ก็จะดำเนินการทางกฏหมายทันที
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบ พบว่าแต่ละศพจะถูกบรรจุอยู่ในโลงศพ แต่ละโลงศพจะตั้งอยู่ภายในกระต็อบหลังละศพ ส่วนศพที่พบมีลักษณะแห้งเหลือเพียงโครงกระดูก และหนึ่งใน11ศพที่พบ มีการโบกด้วยปูนซีเมนท์ และอีกศพคาดว่าน่าจะพึ่งเสียชีวิตไม่นานเนื่องจากสภาพศพยังมีสภาพสมบรูณ์ และภายในโลงศพมียาเส้นและใบขนุนที่ใช้ในการดับกลิ่นเน่าเหม็นด้วย ส่วนศพทั้ง11ศพ ได้ทำการเคลื่อนย้ายไปไว้ที่มูลนิธิชุมแพ เพื่อรอผลการพิสูจน์จากทางนิติเวช จากนั้นก็จะมอบให้กับญาติผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศล ตามประเพณีต่อไป
บริเวณพื้นที่ของสำนักพระบิดา ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนได้ตรึงกำลังห้ามให้บุคคลภายนอกเข้าไปด้านใน และประชาชนที่อยู่ด้านในก็ห้ามออกมา ซึ่งทางนายอำเภอจะได้จัดรถรับ -ส่ง ประชาชนกลับภูมิลำเนา บรรยากาศเป็นไปด้วยความตรึงเครียดพอสมควรเพราะยังมีผู้ที่ศรัทธาบางรายยังเลื่อมใสศรัทธาอยู่ ไม่ประสงค์ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา เนื่องจากยังมีความหวังว่าพระบิดาจะกลับมาอีกครั้ง
พันตำรวจเอกวัฒนชัย จันทร์ทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร ยอมรับว่าเนื่องสภาพศพส่วนใหญ่ อยู่ในสภาพที่แห้งและเหลือเพียงโครงกระดูก จำเป็นต้องนำไปเก็บรักษาไว้ในที่เหมาะสม เพื่อรอผลพิสูจน์อย่างเป็นทางการเสียก่อน จึงจะมอบให้กับญาตินำกลับไปทำบุญ ส่วนนายทวี หนันรา อายุ75 ปี ที่อ้างตนว่าเป็นพระบิดาของทุกศาสนานั้น ในช่วงบ่ายของวันนี้ จะได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลอำเภอภูเขียวต่อไป.
วิรัตน์ ดวงแก้ว จ.ชัยภูมิ – รายงาน