ลำปาง….เรื่องราวพลิก แม่ค้าแจ้งตำรวจ พ่อจูงแขนลูกชายวัย10ขวบขึ้นสะพานลอย จะกระโดด สุดท้ายช่วยกันรวมเงินช่วยเหลือ

 

เมื่อช่วงเช้าวันที่4มี.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์ฯนคร ได้รับแจ้งว่า มีชายวัยกลางคน สะพายกระเป๋า จูงแขนลูกชายเดินขึ้นไปบนสะพายลอย บริเวณแยกไฟแดงบ้านฟ่อน ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง เกรงว่าจะคิดสั้นกระโดดสะพานลอย จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พบชายคนดังกล่าวนั่งอยู่บนสะพานพร้อมลูกชาย จึงได้สอบถามเกี่ยวกับตามที่ได้รับแจ้ง

ทราบชื่อต่อมาคือนายสร้อย ลีลา อายุ35ปี บ้านเดิมเป็นคนจังหวัดกำแพงเพชร แต่ได้มาอาศัยทำงานรับจ้างทั่วไป ที่ลำปางนานกว่าสิบปีแล้ว หลังจากเลิกกับภรรยา ได้นำลูกชายอายุ10ปี เรียนอยู่ชั้น ป.4 ร.ร.แห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครลำปาง มาอาศัยอยู่ด้วยกัน ภายหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ไม่มีใครจ้างงาน จึงไม่มีเงินที่จะเลี้ยงดูลูกชาย และไม่มีเงินค่าโดยสารรถ เช้าวันนี้จึงตัดสินใจพาลูกชาย สะพายกระเป๋าเสื้อผ้า และไฟฉาย เดินเท้าจากจังหวัดลำปาง กลับบ้านเกิดที่จังหวัดกำแพงเพชร เมื่อมาถึงบริเวณตลาดแยกบ้านฟ่อน จึงได้หยุดพัก พาลูกชายเดินขึ้นไปยังบนสะพายลอย หยุดดูรถยนต์แล่นผ่านไปมา จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบถาม ซึ่งตนเองไม่ได้ที่จะคิดสั้นพาลูกชายกระโดดสะพานลอยเพื่อฆ่าตัวตายแต่อย่างใด ทาง ร.ต.อ.สุภัทรชัย นันต๊ะภาพ รอง.สวป.สภ.เขลางค์นคร จึงได้ให้ลงจากสะพานลอย มานั่งพูดคุยกันด้านล่าง และจะได้ทำการช่วยเหลือให้เงินส่วนตัว พร้อมพาไปส่งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เพื่อซื้อตั๋วโดยสารให้เดินทางกลับบ้าน

จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ทำให้แม่ค้า ในตลาดสดยกไฟแดงบ้านฟ่อน ต่างทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับสองพ่อลูก ไม่มีเงินติดตัวแม้จะซื้อข้าวกิน หรือเงินค่ารถโดยสารเพื่อกลับบ้าน ทำให้นางจันทร์แก้ว มงขุนทด(ใส่เสื้อสีม่วง ใส่ผ้ากันเปื้อนลายสีน้ำตาล) อายุ58ปี ซึ่งเป็นแม่ค้าขายหอม กระเทียม ภายในตลาดสดดังกล่าว ได้จูงแขนลูกชายของนายสร้อย เข้าไปในตลาดสด เพื่อขอให้พ่อค้า แม่ค้า และชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของ ได้ช่วยเหลือให้เงิน บางคนให้20บาท 60บาท 100บาท บางคนให้กางเกง แมส รวมทั้งน้ำเปล่า และอาหาร ซึ่งพ่อค้า แม่ค้า ต่างมีน้ำใจไมตรีอันดีงาม ช่วยเหลือคนที่ลำบาก ในยามที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ทำให้หลายคนต้องตกงาน ไม่มีรายได้ที่จะมาเลี้ยงดูครอบครัว ทุกคนต่างมีน้ำใจช่วยเหลือให้เงิน และสิ่งของต่างๆ เมื่อนำมารวบรวมนับแล้ว ได้เงินจำนวน1,500บาท เพื่อเป็นค่าโดยสารและนำไปใช้จ่ายหลังจากสองพ่อลูก ได้เดินทางไปถึงบ้านที่จังหวัดกำแพงเพชรแล้ว ซึ่งบรรยากาศภายในตลาด พ่อค้าแม่ค้า ทุกคนต่างพร้อมใจกันที่จะช่วยเหลือให้เงิน โดยที่ไม่มีใครบังคับ หลังจากนับเงินแล้ว ได้พูดปลอบให้กำลังใจกับลูกชายของนายสร้อย ให้ตั้งใจเรียนหนังสือ โตมาจะได้เป็นคนดีของสังคม ทำให้ลูกชายของนายสร้อย ยิ้ม ยกมือไหว้ ทุกๆคนที่ให้การช่วยเหลือ

นางจันทร์แก้ว มงขุนทด เปิดเผยว่า เมื่อทราบเรื่องราวแล้ว นึกสงสารเด็ก อยากให้สองพ่อลูกไม่ต้องลำบาก ที่จะต้องเดินเท้ากลับบ้านซึ่งเป็นระยะทางไกลหลายร้อยกิโลเมตร ซึ่งพ่อค้าแม่ค้า ได้ช่วยเหลือรวบรวมเงินอยากให้ทั้งสองคนได้เดินทางไปตั้งตัวหางานทำที่บ้านเกิด ทาง ร.ต.อ.สุภัทรชัย นันต๊ะภาพ รอง.สวป.สภ.เขลางค์นคร ได้นำตัวสองพ่อลูก ขึ้นรถยนต์สายตรวจ ไปส่งยังสถานีขนส่งผู้โดยสารลำปาง เพื่อเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดกำแพงเพชร ต่อไป….