จิตอาสา จ.ลำปาง ช่วยกันทำแนวกันไฟรอบเขาดอยพระบาท ป้องกันไฟป่าลดปัญหามลพิษ

 

ทสจ.ลำปาง นำข้าราชการและประชาชนจิตอาสาจากทุกภาคส่วนในเขตพื้นที่ ร่วมสานพลังทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม “คนลำปางร่วมใจ สร้างฟ้าใส ไร้หมอกควัน” ช่วยกันลงแรงทำแนวกันไฟรอบบริเวณผืนป่าเขาดอยพระบาท อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต รณรงค์สร้างจิตสำนึกหยุดพฤติกรรมการเผา
นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง นำทีมผู้บริหารหน่วยงานองค์กรภาครัฐ พร้อมด้วยเหล่าบรรดาข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ จากหน่วยงานส่วนราชการต่างๆ ทั้งจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง มณฑลทหารบกที่ 32 ตำรวจภูธรจังหวัด ที่ว่าการอำเภอเมืองลำปาง รวมถึงส่วนราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมจำนวนกว่า 250 นาย ลงพื้นที่สานพลังบูรณาการกับหน่วยงานองค์กรภาคีเครือข่ายภาคเอกชนในชุมชนเขตท้องที่อำเภอเมืองลำปาง ร่วมเป็นจิตอาสาภัยพิบัติทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม เนื่องในวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า 24 กุมภาพันธ์ “คนลำปางร่วมใจ สร้างฟ้าใส ไร้หมอกควัน” ช่วยกันลงแรงนำอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือครบชุด เดินเท้าเข้าป่าทำแนวกันไฟรอบบริเวณผืนป่าเขาดอยพระบาท บริเวณอุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต (สวนรุกขชาติพระบาท) ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง.

โดยผืนป่าดังกล่าวถือเป็นพื้นที่ไข่แดงที่มักเกิดปัญหาไฟป่าในช่วงหน้าแล้งแทบทุกปี ประกอบกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต เป็นเขตพื้นที่ติดต่อของป่าสงวนหลายแห่ง ทั้งป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จาง, ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยาง-แม่อาง และป่าสงวนแม่เมาะ ซึ่งผืนป่าแห่งนี้มีพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ป่ากว้างกว่า 50,000 ไร่ อีกทั้งในเขตบริเวณพื้นที่ป่ายังเป็นสถานที่ตั้งของวัดวาอาราม รวมถึงโบราณสถานเก่าแก่ของจังหวัดลำปางอีกหลายแห่ง โดยการทำแนวกันไฟก็เพื่อจะช่วยปกป้องพิทักษ์ผืนป่าในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว เป็นการป้องกันไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะมีผู้ไม่หวังดีแอบเข้าไปลักลอบจุดไฟเผา และอาจเกิดลุกลามสร้างความเสียหายให้แก่ผืนป่าเป็นบริเวณกว้าง รวมถึงโบราณสถานต่างๆ ที่ตั้งอยู่ภายในเขตบริเวณพื้นที่ป่าด้วย.

ทั้งนี้สำหรับการทำกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานเชิงรุกเร่งด่วนในการป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันไฟป่าของจังหวัดลำปาง ซึ่งทุกปีมักเกิดปัญหารุนแรงในช่วงเดือนมกราคม – เมษายน โดยการดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาในปีนี้ ทางจังหวัดได้เน้นการดำเนินการแบบมีส่วนร่วมเป็นหลัก ภายใต้แนวคิด “คนลำปางร่วมใจ สร้างฟ้าใส ไร้หมอกควัน” ซึ่งได้มีการนำหน่วยงานทุกภาคส่วน รวมถึงชุมชนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในบริเวณรอบพื้นที่ป่าเข้ามาทำกิจกรรมร่วม เพื่อสร้างจิตสำนึกรับผิดชอบให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักเห็นถึงคุณค่าของทรัพยากรป่าไม้ และช่วยกันสอดส่องดูแลผืนป่าไม่ให้ถูกบุกรุกแผ้วถาง หรือถูกเผาทำลาย ตลอดจนการทำกิจกรรมแนวกันไฟครั้งนี้ ยังเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านกลุ่มผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณรอบพื้นที่ป่าได้รับรู้ เข้าใจ ตระหนักถึงปัญหา และร่วมเป็นแกนนำในการรณรงค์ไม่ให้มีการเผาในพื้นที่ป่าในเขตชุมชนของตนเอง เพื่อจะได้ลดปัญหามลพิษจากหมอกควันไฟ โดยทางจังหวัดมุ่งหวังที่จะให้การดำเนินกิจกรรมเป็นต้นแบบ ในการนำไปสู่การแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน.

ซึ่งในการรวมตัวทำกิจกรรมครั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการจัดแบ่งกำลังพลจิตอาสาออกเป็นกลุ่มย่อย แยกย้ายเดินเท้าเข้าไปในเขตพื้นที่ป่า กระจายกำลังช่วยกันทำแนวกันไฟขนาดความกว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร ไปตามจุดต่างๆ ให้ยาวต่อเนื่องและเชื่อมต่อถึงกันตลอดแนวผืนป่าของสวนรุกขชาติพระบาท รวมระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร โดยในการทำแนวกันไฟดังกล่าว ทางจังหวัดลำปางได้นำมาตรการกำจัดเชื้อเพลิงออกจากป่ามาใช้ ตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม “ชิงเก็บลดเผา” ทั้งทำการฝังกลบเชื้อเพลิงในป่า เพื่อให้เชื้อเพลิงได้กลายเป็นปุ๋ยสำหรับบำรุงต้นไม้ นอกจากนี้ได้ทำการเก็บรวบรวมนำเอาเศษไม้ ใบไม้ และหญ้าแห้ง มาอัดเป็นก้อนก่อนนำขนย้ายออกจากผืนป่า โดยเชื้อเพลิงที่อัดเป็นก้อนชุมชนพื้นที่จะมีการนำไปทำเป็นปุ๋ยหมัก หรือนำไปขายให้กับบริษัทภาคเอกชนที่มารับซื้อ ซึ่งรายได้ทั้งหมดจะถูกนำกลับคืนไปใช้ในการบริหารจัดการพื้นที่ป่าตามชุมชนต่างๆ เพื่อให้การดำเนินการเฝ้าระวังป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน ในภาพรวมทั่วทั้งจังหวัดเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป.

ทั้งนี้สำหรับสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำปาง ปัจจุบันสถานการณ์ภาพรวมทั้งจังหวัดยังอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง โดยพบว่าตลอดทั้งวันของวันนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2565) ค่าคุณภาพอากาศยังอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ถึง เริ่มมีผลกระทบต่อต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งในพื้นที่สามารถวัดค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ได้สูงสุด 51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง และวัดค่าได้ 44 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ตำบลสบป้าด ตำบลแม่เมาะ และตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ.