หนุ่มใหญ่เป็นใบ้จะไปซื้อของ ควบ จยย.ไม่มีไฟฝ่าความมืดบนถนน ถูกพ่วง 18 ล้อทับดับอนาถ ทั้งมือยังกำเงิน

เมื่อวันที่ 9 ก.พ.65 เวลาประมาณ 19.30 น. จนท.ตำรวจ สภ.ทุ่งฝาย และ จนท.สมาคมกู้ภัยลำปาง จุดนิคมพัฒนา จนท.กู้ภัยลำปาง จุดเมือง และ จนท.สมาคมกู้ภัยต้นธงชัยลำปาง ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถบรรทุกเทรลเลอร์ 18 ล้อ ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย บนถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม(ขาขึ้น) บริเวณสะพานเข้ากรมประมง ต.นิคมพัฒนา อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง จึงนำกำลัง จนท.รีบรุดออกไปตรวจสอบ
ภายในที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกเทรลเลอร์ 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน (หน้า) 70-6876 ลำปาง และทะเบียน (หลัง) 70-6877 จอดอยู่กลางถนนเลนฝั่งขาขึ้น

โดยมี รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นเก่า ซุปเปอร์ 900 หมายเลขทะเบียน ช 0279 ลำปาง สภาพล้มถูกล้อหลังรถบรรทุกเทรลเลอร์ทับไว้ ห่าง
จากบริเวณท้ายรถบรรทุกเทเลอร์ ประมาณ 5 เมตร พบร่างผู้เสียชีวิตนอนหงายอยู่กลางสะพาน ทราบชื่อต่อมา คือนายสว่าง เป็นใหญ่ อายุ 56 ปี เป็นชาว ต.นิคมพัฒนา อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง โดยสภาพศพมีเลือดออกปาก ออกจมูก มีแผลฉีกฉกรรจ์ที่บริเวณมือทั้งสองข้าง ทางแพทย์เวรชันสูตร รพ.ลำปาง และ จนท.ตำรวจ จนท.กู้ภัยร่วมกันชันสูตรเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ ก่อนจะนำร่างผู้เสียชีวิต ไปชันสูตรเพิ่มเติมอย่างละเอียดยัง รพ.ลำปาง

จากการสอบถาม คนขับรถบรรทุกเทรลเลอร์ ทราบชื่อคือนาย ฐิติวัสส์ จริยา อายุ 25 ปี เป็นชาว อ.ห้างฉัตร ให้การ จนท.ว่า ตนกำลังออกจากบริษัทเพื่อไปใส่ปูน ที่ บ.ปูนซิเมนต์ไทย อ.แจ้ห่ม พอมาถึงที่เกิดเหตุ เป็นทางแยก ตนจะเลี้ยวซ้าย และได้ดูรถทั้งสองฝั่งแล้ว ซึ่งไม่เห็นรถของผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ประกอบกับทางมืดมากไม่มีไฟส่องสว่าง จึงเลี้ยวซ้าย ซักพักได้ยินเสียงดังกรึ๊บ นึกว่าพาเรทที่ตนบรรทุกมาตก ประกอบกับเห็นคนที่ร้านขายของข้างทางที่เกิดเหตุ ส่งเสียงร้องกรีดจึงจอดรถแล้วลงไปดู พบว่าตนได้ชนกับรถจักรยานยนต์ผู้เสียชีวิต จึงได้ประสานให้ จนท.เข้ามาช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามญาติผู้เสียชีวิตทราบว่า ผู้เสียชีวิตทำงานอยู่ร้านวัสดุก่อสร้างใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ แต่เลิกงานแล้ว และกลับบ้านแล้ว ซึ่งปกติ ผู้เสียชีวิตเป็นคนพิการใบ หูหนวก และจะใช้จักรยานเป็นประจำ แต่วันนี้แอบขับรถจักรยานยนต์ออกมา คงจะออกมาซื้อของ ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะได้สอบปากคำหาพยานที่พบเห็นเพิ่มเติม และคนขับรถ เพื่อหาสาเหตุข้อเท็จจริงของอุบัติเหตุครั้งนี้โดยละเอียดก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.