เชียงราย ไทย-ลาว ร่วมลาดตระเวนแม่น้ำโขง ครั้งแรก

 

วันที่ 4 มกราคม 2565 กองกำลังผาเมือง กับ กองบัญชาการทหารแขวงบ่อแก้ว ระหว่าง จ.เชียงราย-ทหารแขวงบ่อแก้ว ฝ่ายไทยนำโดย พล.ท.พงศ์เทพ แก้วไชโย เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ร่วมกับพลจัตวาสีพัน พุทธวงศ์ หัวหน้ากรมทหารชายแดน (ฝ่ายลาว )ร่วมการประชุมและการลาดตระเวณร่วมทางน้ำตามลำน้ำโขง โดยศูนย์ประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทยลาว กองกำลังผาเมืองกับกองบัญชาการทหารแขวงบ่อแก้ว ระหว่างจังหวัดเชียงราย-แขวงบ่อแก้ว.

โดยมี พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผบ.กกล.ผาเมือง พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม รอง ผ.บ.กกล.ผาเมือง, นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผ.อ.ปปส.ภาค 5 นายโชติพันธ์ จุลเพชร ผ.อ.ศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย ป.ป.ส. น.อ.จิรัฎษ์ ผูกทอง ผบ.นรข.เขตเชียงราย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันทุกฝ่าย.

พล.ท.พงศ์เทพ กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เราปฏิบัติการตามศูนย์อำนวยการปราบปรามยาเสพติด ของศูนย์บัญชาการของทหารกองทัพไทย ซึ่งการแก้ไขปัญหายาเสพติดเราแก้ปัญหาเฉพาะประเทศเราฝ่ายเดียวไม่ได้ จึงจำเป็นต้องมีความร่วมมือระหว่างทั้งสองชาติ ทั้งไทยและลาว และไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นที่มีปัญหา ภาพที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้จะส่งผลให้เห็นถึงความร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นของหน่วยงานทางด้านความมั่นคงแนวชายแดน มห้สองชาติได้เห็นให้ประชาชนได้เห็น รวมไปถึงผู้ที่จะทำไม่ดีผิดให้เห็นว่าเราได้ทำงานร่วมอย่างแน่นแฟ้น พยายามสะกัดกั้น เราต้องหยุดก่อนที่จะเข้ามา สิ่งหนึ่งที่จะช่วยได้คือการข่าว ถ้าเรามีการข่าวเฉพาะจองเราเองไม่ได้ ต้องมีเพื่อนของเราช่วยได้ ในจุดนี้ถือว่าเป็นจุดพีคที่สุดของความสัมพันธ์ที่เห็นอยู่ที่ลาดตระเวณทางน้ำนั้น มีทางบกด้วย.

พล.ต.สีพัน กล่าวว่า ในนามหัวหน้าคณะปฏิบัติงาน สกัดกั้นยาเสพติดชายแดน ลาวไทยร่วมกับกองทัพไทย ระยะที่ผ่านมานั้นในส่วนที่ยึดได้ 30 กว่าล้านเม็ด เป็นความร่วมมือระหว่างไทยลาวเรื่องข่าวสารที่ดีที่สุดที่ผ่านมาดังนั้นถ้าเราร่วมมือกันสองฝ่ายจะทำให้เรามีผลงาน ในระยะนั้นสองกองทัพเรา จากก่อนหน้านี้เป็นความร่วมมือ ของ ป.ป.ส.และตำรวจ ของทั้งสองฝ่าย เมื่อมีความร่วมมือการข่าวและการสื่อสารของกองทัพด้วยก็จะทำให้มีผลงานมากขึ้นในการร่วมมือของกองทัพด้วยต่อไปลาวก็จะมอบหมายให้กองบัญชาการทหารแขวงบ่อแก้ว ร่วมกับกองกำลังผาเมืองสืบต่อการลาดตระเวนต่อไป สถานการณ์ขณะนี้มีหลุดเข้ามาเยอะขึ้น มีวาระแห่งชาติของลาวต้านและสกัดกั้นยาเสพติด 2021-2023 ซึ่งการปฏิบัติจะเข้มขนและจริงจังขึ้น.