หนุ่มใหญ่เจ้าของบ่อดินร้องความเป็นธรรมถูกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกลั่นแกล้ง ร้องมาแล้วทุกหน่วยงานแต่ถูกเมินเฉย

เมื่อเวลา 13.30 วันที่ 25 มกราคม 2565 นายอำนาจ ยังให้ผล อยู่ที่ 168/1 หมู่ 5 ต.เขามีเกียรติ อ.สะเดา จ.สงขลา ได้หอบเอกสารเกี่ยวกับการขออนุญาต การประกอบกิจการโรงงานการทำบ่อดิน และใบอนุญาตจาก อบต.เขามีเกียรติ ให้ดำเนินการขุดดินลูกรัง ตามโฉนดเลขที่ 26210 เลขที่ 73 เนื้อที่ 15 ไร่ พร้อมทั้งหนังสือแจ้งความร้องทุกข์ ของหน่วยงานต่างๆ เช่น ศูนย์ดำรงธรรม,กองปราบ,สำนักนายก, กก.5 บก.ทปส., ปปช. ศาลปกครอง และสำเนาการแจ้งความของ สภ.คลองแงะ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อเป็นหลักฐานในการแสดงให้ผู้สื่อข่าว เพื่อขอความเป็นธรรม ที่ถูกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรังแกจนได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ และถูกกลั่นแกล้งจากผู้นำท้องที่ ผู้มีอิทธิพล เจ้าของบ่อดินที่อยู่ในพื้นที่.

โดยนายอำนาจ เปิดเผยว่า ตนเอง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง มามีภรรยาในพื้นที่ หมู่ 5 ต.เขามีเกียรติ และได้ลงทุนซื้อที่ดินเพื่อทำอุตสาหกรรมบ่อดิน ขายดินลูกรังให้กับผู้รับเหมาสร้างถนน ซึ่งกำลังก่อสร้างถนนสาย คลองแงะ-นาทวี อ.สะเดา จ.สงขลา โดยลงทุนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ก่อนที่จะดำเนินการได้รับใบอนุญาตจาก อบต.ในพื้นที่ และ อุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา ครบถ้วน
แต่เมื่อตนเริ่มดำเนินการตักดินขายให้กับรถบรรทุกเพียง 3 ชั่วโมง ก็ถูกเจ้าหน้าที่ อบต.เขามีเกียรติ สั่งให้หยุด โดยอ้างว่า การวิ่งรถบรรทุกบนถนนของ อบต.จะทำให้ถนนพัง และ จะถูกชาวบ้านปิดถนน ทำให้ตนต้องหยุดการดำเนินการ และได้พยายามพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ อบต.ที่มีอำนาจ ทั้งที่ปลัด และ ผอ.กองช่าง แต่ทุกคนยืนยันให้หยุดการดำเนินการ ทั้งที่มีการทำประชาคมจากคนในพื้นที่ว่า การใช้ถนนในพื้นที่เพื่อขนดินสามารถทำได้ถ้านำดินไปเพื่อสร้างถนน ซึ่งดินที่ตนขายก็เป็นการนำไปเพื่อสร้างถนนสานคลองแงะ-นาทวี ซึ่งอยู่ใน ต.เขามีเกียรติ.

ที่สำคัญ ตนถูกห้ามทำกิจการบ่อดินลูกรัง แต่ในพื้นที่ มีบ่อดินอีก 1 บ่อ ตั้งอยู่ และสามารถดำเนินการได้ตามปกติ และดำเนินการมานานแล้ว โดยไม่ได้ถูก อบต. และ ผู้นำท้องที่สั่งห้าม เมื่อตนสอบถาม เจ้าหน้าที่ อบต. ก็กล่าวว่า ถนนที่เจ้าของบ่อดินใช้วิ่งเป็นถนนทางหลวงชนบท ซึ่งได้รับการอนุญาตให้วิ่งได้ แต่เมื่อตนขอดูหลักฐานกลับไม่ได้ แต่เมื่อตนจะวิ่งบนถนนทางหลวงหลวงชนบทด้วย ก็ถูกเจ้าหน้าที่สั่งห้าม หลังจากนั้นตนจึงได้ทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม และแจ้งพฤติกรรมที่มีการทำผิดกฎหมายในพื้นที่ เช่นมีการปล่อยให้ผู้มีอิทธิพล ขุดดินใต้สายไฟฟ้าแรงสูงของ กฝผ. มีการรื้อที่พักของตนเอง และทำลายข้าวของที่บ่อดินของตน แต่หลังจากร้องไปแล้ว ไม่มีความคืบหน้า จึงขอใช้”สื่อ”เป็นที่พึ่งสุดท้าย ในการขอความเป็นธรรม ที่ถูก อบต.เขามีเกียรติ รังแก และเลือกปฏิบัติ
“ผมหมดเงิน หมดตัว ขายรถยนต์ ขายทรัพย์สิน และกู้เงิน ธกส.มาเพื่อดำเนินกิจการ แต่โดน เจ้าหน้าที่เลือกปฏิบัติ และผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นรังแก และไม่มีหน่วยงานไหนให้ความช่วยเหลือ ทั้งที่ผมบากหน้าไปขอความช่วยเหลือมาแล้วทุกหน่วยงานในประเทศไทย สุดท้ายจึงขอพึ่ง”สื่อมวลชน” เพราะไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว.

 

cr.นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา