เมื่อช่วงเย็นของวันนี้ (วันที่ 14 มกราคม 2565) นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนางสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน และเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าบริโภคประเภทของสด ณ ตลาดสายหยุดหรือ ตลาดสดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งพบว่าบรรยากาศของการค้าขายภายในตลาดอยู่ในสภาวะเงียบเหงา โดยเฉพาะในส่วนของแผงจำหน่ายเนื้อหมู ไก่สด ที่มีพ่อค้าแม่ค้าทนสภาพขาดทุนไม่ไหวปิดตัวไปกว่าร้อยละ 40 ของแผงค้าทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบว่าพฤติกรรมการบริโภคของชาวบ้านก็เปลี่ยนไป บางคนหันไปกินเนื้อไก่ ปลาแทน ที่สำคัญพ่อค้าแม่ค้าเองก็วิตกกังวลว่าช่วงตรุษจีนหรือไปจนถึงสงกรานต์นั้น ราคาสินค้าต่างๆ จะแพงขึ้นกว่านี้ได้อีก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแม่ฮ่องสอนจะเสียค่าขนส่งแพงกว่าที่อื่นอยู่แล้ว
โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับผู้ค้า และสอบถามปัญหาด้านราคาโดยเฉพาะเนื้อหมู พบว่า มีต้นทุนสูงขึ้นตั้งแต่หน้าฟาร์ม ร้อยละ 50-60 แต่ในกลุ่มของผู้ค้าได้มีการตกลงที่จะพยุงราคาให้เป็นธรรมต่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย คือให้ผู้ค้าพออยู่ได้ ส่วนผู้บริโภคก็ยังสามารถซื้อหมูได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าสะท้อนว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมการซื้อลดลง จากแต่เดิมในช่วงที่ราคาปกติ จะซื้อ 1-2 กิโลกรัม ปัจจุบันลดลงเหลือครึ่งกิโลกรัม การที่หมูแพงขึ้นไม่ได้ทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีกำไรมากขึ้นมิหนำซ้ำยอดขายยังลดลง จึงต้องการให้ทางจังหวัดรายงานปัญหานี้ไปที่ส่วนกลางหามาตรการทำให้ราคาหมูต้นทุนถูกลง ซึ่งในจุดนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอนนำข้อแนะของผู้ค้าให้กรมการค้าภายในพิจารณาหาแนวทางแก้ปัญหาระยะยาว
นางสาวยุพา นาคา พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหาระยะสั้น สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ร่วมกับ ร้านภาคเหนือหมูสด ขยายเวลาดำเนิน “โครงการหมูพาณิชย์…ลดราคา ช่วยประชาชนในส่วนภูมิภาค” ไปถึง 31 มกราคม 2565 โดยจัดจำหน่ายหมูเนื้อแดง ราคา 150 บาทต่อกิโลกรัม จำนวน 5 จุดใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ขุนยวม ปางมะผ้า และอำเภอปาย แม้จะไม่เพียงพอต่อความต้องการก็ถือว่าบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนในระยะสั้นได้บ้าง.
cr.วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน