ด้วยกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายที่จะป้องกันภัยเกี่ยวกับอาชญากรามทางเทคโนโลยี ในรูปแบบลักษณะการเตือนภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ตระหนักรู้ในการระวังป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรรมทางไซเบอร์ ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ภานุมาศ บุญญลักษณ์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.มณเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.ชินพันธ์ พราหมณ์พันธุ์ รอง ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ แสงสง่า รอง ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง ผบก.สอท.4 จึงได้มีนโยบาย ประชาสัมพันธ์ผ่านทางช่องทางต่างๆ ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบถข้อมูลข่าวสาร ภายพบว่ามีพี่น้องประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของอาชญากร อย่างไม่รู้ตัวในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสมัครงานทางออนไลน์, ซื้อของออนไลน์, หลอกลวงในการส่งข้อความผ่านทาง SMS ว่าจะได้รับการช่วยเหลือต่างๆ, อัพเดทโปรแกรม, ได้สิทธิพิเศษ, มือถือติดไวรัส, เกี่ยวกับวัคซีนโควิด, แอพพลิเคชั่นหาคู่ผ่านทางอินเทอร์เน็ต, แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าคุณถูกหมายศาล, อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ทางธนาคารขอตรวจสอบบัญชี และในหลากหลายรูปแบบ
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก จึงอยากจะประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนโปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ เพราะท่านอาจ ตกเป็นเครื่องมือของคนร้าย ทั้งนี้ หากท่านพบเห็นหรือสงสัยพฤติการณ์ในรูปแบบดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599, สายด่วน 1441 ตำรวจไซเบอร์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.
