(เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565) ภายหลังมีการปะทะกันระหว่างปะทะระหว่าง ทหารกะเหรี่ยงคะยา (KNPP) กับทหารเมียนมา กองพันที่235 ฐานห้วยโปงเลา ตรงข้ามชายแดนไทยบ้านน้ำเพียงดิน ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในช่วงเช้าที่ผ่านมา บริเวณสะพานข้ามลำห้วยผักหวาน หมู่ที่3 บ้านห้วยเดื่อ ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน มีเจ้าหน้าที่ทหารจากร้อย ร.711 ฐานกุงไม้สัก หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 และฐานปฏิบัติการช่องทางน้ำเพียงดิน พร้อมด้วย กองร้อย อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ที่2 ได้นำแผงเหล็กกั้นมาปิดกั้นบริเวณสะพาน ห้ามบุคคลเข้า-ออกรวมถึงสื่อมวลชนทุกแขนงผ่าน โดยระบุว่าเพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์และความปลอดภัย ต่อมาในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้แถลงถึงสถานการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้น ว่าเป็นการสู้รบของทหารรัฐบาลเมียนมา กองพันที่ 135 ฐานห้วยโปงเลากับกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา (KNPP) ตรงข้ามกับช่องทางบ้านน้ำเพียงดอน ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ด้วยการปะทะกันทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศอย่างต่อเนื่อง โดยมีชาวบ้านถ่ายภาพเครื่องบินของทหารรัฐบาลเมียนมาไว้ได้ แม้ว่าตลอดทั้งวันจนถึงช่วงเย็นจะไม่ได้ยินเสียงการปะทะของทั้ง 2 ฝ่ายก็ตาม แต่ชาวบ้านและครูที่อยู่ตามโรงเรียนแนวชายแดน ก็ยังคงได้ยินเสียงเครื่องบินทำการบินวนอยู่หลายรอบช่วงค่ำในฝั่งของเมียนมา ทำให้ทุกฝ่ายต้องจับตามองสถานการณ์ครั้งนี้อย่างใกล้ชิดในห้วง 2-3 วันจากนี้ไป เนื่องจากเสียงเครื่องบินยังคงมีบินวนด้านตรงข้ามกับอำเภอขุนยวมและอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน
ด้าน นายอำพันธ์ กลิ่นขจรไกลยิ่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่3 บ้านห้วยเดื่อ ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จุดนี้อยู่ห่างจากเมียนมาประมาณ 10 กิโลเมตร และไม่มีเหตุการณ์ลักษณะมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลา 7:00-10:00 น. ชาวบ้านได้ยินเสียงการปะทะ ทั้งเสียงปืนเล็ก และปืนใหญ่ รวมถึงเสียงเครื่องบินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้มีการให้ผู้นำชุมชนแต่ละหย่อมบ้านประชาสัมพันธ์กับชาวบ้าน ให้อยู่บ้าน และไม่เข้าใกล้แนวชายแดน อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านพบว่าไม่ค่อยตื่นตกใจ เพราะมั่นใจว่าจะไม่กระทบมาถึงไทย เนื่องจากเป็นการสู้รบในแดนเมียนมา และแม้ว่าขณะนี้สถานการณ์จะสงบลงแล้ว แต่ชาวบ้านยังกังวลเรื่องโรคระบาดหากมีผู้หนีภัยเล็ดลอดเข้ามาโดยไม่ผ่านขั้นตอนด้านสาธารณสุข จากการที่มีเจ้าหน้าที่มาวางกำลังเฝ้าระวังก็ทำให้อุ่นใจมากขึ้น ขณะเดียวกัน ทางท้องถิ่นโดยกำนันตำบลผาบ่อง ได้ประสานเตรียมการช่วยเหลือหากมีการหนีภัยเข้ามาแล้ว ซึ่งล่าสุดมีข้อมูลว่ามีผู้หนีภัยความไม่สงบมาจ่อชายแดน ณ ฐาน 585 ของทหารไทย บริเวณหย่อมบ้านห้วยปูแกง ประมาณกว่า 200 คนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จากสถานการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาครั้งนี้ เป็นการปะทะกันอีกครั้งหลังจากห่างหายไปเกือบ 10 ปี โดยทางทหารของทั้ง 2 ฝ่ายต้องการแย่งพื้นที่ หลังจากทางกะเหรี่ยงคะยาเองพบความเคลื่อนไหวว่าทางเมียนมา พยายามจะนำทหารช่างเข้ามาวางกำลังเสริมทำเส้นทางเชื่อมต่อจากแนวชายแดนไปยังเมืองสำคัญต่างๆ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้กองกำลังเคลื่อนที่เร็วของกะเหรี่ยงคะยาลอบซุ่มโจมตีฐานที่มั่นจนเกิดความสูญเสีย ทำให้ทหารรัฐบาลเมียนมาต้องขอสนับสนุนจากทางอากาศเข้ามาถล่มดังกล่าวดังกล่าว
cr.วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน
