ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง บ้านเลขที่ 500 บ้านต้า ม.10 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง เพื่อพบญาตินายนิกร เล็กศรี อายุ48 ปี หลังถูกกลุ่มชายไทย ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บนอนรักษาตัวโรงพยาบาลก่อนที่ทางญาติจะเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อร.ต.อ.ซยณัฐ เตซะผาติกุล รองสว. สอบสวนสภ.เขลางค์นครเหตุเกิด บ้านเลขที่ 500 ม.10 ต.ซมพู อ.เมือง จ.ลำปางเมื่อคืน วันที่ 23 ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา
เมื่อไปถึงพบนางสาว บี (นามสมมุติ) อายุ20ปี ซึ่งเป็นหลานสาวของนายนิกรและอยู่ในเหตุการณ์ ก่อนจะเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายนิกร ถูกกลุ่มปล่อยเงินกู้ ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บที่เหนือคิ้วด้านซ้ายเป็นแผลเย็บหลายเข็ม จนเลือดไหล ก่อนที่ทางทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยอัมรินทร์ลำปาง นำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี ซึ่งแพทย์ได้ทำการเย็บแผลเอกซเรย์สมอและให้นอนพักรักษาตัวเพื่อดูอาการ ซึ่งตอนเกิดเหตุตนได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้ ตอนกลุ่มเงินกู้ซึ่งเป็นชายฉกรรจ์หลายคนได้ขับรถยนต์เก๋งมาด้วยกันสองคันมาจอดถนนหน้าบ้านที่เกิดเหตุ และมีการพูดจาเสียงดังโต้เถียงกันกับนายนิกรซึ่งคลิบ มีความยาวประมาณหนึ่งนาทีเศษและจะใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีกับกลุ่มที่ทำร้ายนายนิกร
นางสาวเอเปิดเผยอีกว่าสาเหตุทราบว่าแม่ของตน ได้ไปกู้เงินจากกลุ่มปล่อยเงินกู้ของนายสอง ซึ่งเป็นกลุ่มปล่อยเงินกู้ให้กับ พ่อค้า แม่ค้า ทั่วไป จำนวน10,000บาท เพื่อมาเป็นทุนในการค้าขายอาหารตามสั่งและผัดไท ซึ่งเช่าร้นาอยู่ริมถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ขาเข้าเมือง สายเกาะคา-ลำปาง ใกล้กับแยกไฟแดงบ้านฟ่อน แต่ช่วงหลังค้าขายไม่ค่อยดี แม่ไม่ได้ส่งเงินรายวันให้กลุ่มดังกล่าวจนแม่หลบหนีไปต่างจังหวัดจากนั้แม่ได้โทรศัพท์บอกให้ตนไปเอาจักรยานยนต์ที่จอดทิ้งไว้ใกล้กับสถานีขนส่งผู้โดยสารลำปาง จนถึงวันนี้แม่ก็ยังไม่กลับบ้าน เนื่องจากเกรงกลัวกลุ่มที่ปล่อยเงินกู้ ก่อนเกิดเหตุกลุ่มที่ปล่อยเงินกู้พยายามที่จะมาทวงถามเงินที่แม่จนกระทั่งวันเกิดเหตุเวลาประมาณทุ่มกว่า ได้มีกลุ่มเงินกู้ของ นายสอง ประมาณ5คน ได้พาขับรถยนต์เก๋งมาสองคัน จอดริมถนนหน้าบ้าน ก่อนที่จะมาที่บ้านและพูดคุยสอบถามตนเรื่องโทรศัพท์ ที่ติดต่อกับแม่ ซึ่งตนพยามบอกไปว่าแม่ไม่อยู่หลังจากนั้นกลุ่มของนายสองเดินออกจากบ้านไปและยืนคุยกันบริเวณริมถนนหน้าประตูบ้านขณะนั้นนายนิกร ซึ่งเป็นลุง อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ได้ถือมีดอยู่ที่หน้าบ้านเพื่อคุยและเจรจาก่อนจะวางมีดลงกับพื้นปูน ทำให้กลุ่มของนายสองไม่พอใจ เดินไปที่รถยนต์และทำท่าลักษณะใช้มือเหมือนจะชักอาวุธปืน ส่วนชายอีกคนก็ได้นำมีดพร้า ยาวประมาณ1ฟุตกว่า ชูขึ้น พูดจาเสียงดัง มีการท้าทายกันจากนั้นผู้ชายอีกคนก็อาศัยทีเผลอชกใบหน้าของนายนิกร ที่ยืนอยู่ภายในบริเวณบ้าน ไปหนึ่งที จนล้มลงมีบาดแผลเลือดไหลออกใส่เสื้อ ก่อนที่ขับรถออกไปที่เกิดเหตุ มีการพูดจาข่มขู่จะทำร้ายเรียงตัว และยังอ้างว่าคนในบ้านไปทุบทำลายรถยนต์และมีหลักฐานภาพจากกล้องหน้ารถยนต์ ทั้งๆที่ทุกคนอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปทุบหรือทำลายรถยนต์กลุ่มของนายสอง แต่อย่างใด หลังจากเกิดเหตุแล้ว ทางญาติได้ไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ชยณัฐ เตชะผาติกุล รอง.สว.สอบสวน สภ.เขลางค์ฯนคร ซึ่งได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว และทางญาติๆจะดำเนินคดีกลุ่มของนายสองถึงที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.ณัฐญ์วสุภ์ แสงณิรัฒศัย ผกก.สภ.เขลาค์นคร เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนถูกทำร้ายร่างกาย จึงรีบไปตรวจสอบตามรับแจ้งทันที จากการสอบถามข้อมูลในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นชาย ซึ่งเป็นญาติของลูกหนี ก่อนเกิดเหตุมีการพูดคุยกับกลุ่มที่มาทวงถามหนี จนมีปากเสียงทำร้ายร่างกายกัน และขณะนี้ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนหาหลักฐานกลุ่มของนายสอง พอทราบหมายเลขทะเบียนรถยนต์แล้ว1คัน ส่วนอีกคัน ยังไม่ทราบเนื่องจากไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทางพนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำญาติที่มาแจ้งความ หลังจากนี้จะสอบปากคำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว ในเบื้องต้นได้มรแจ้งข้อกล่าวหาว่า ทำร้ายร่างกาย ส่วนข้อหาอื่น เช่น บุกรุกในช่วงกลางคืน รอสอบปากคำคนเจ็บอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่จะให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคด พร้อมที่จะให้ความเป็นอย่างแน่นอน ความคืบหน้าในการติดตามจับกุมกลุ่มนายสอง มาสอบสวน หรือแจ้งข้อหาอื่นๆเพิ่มเติม ต่อไป…