คืบหน้า กรณี บริษัท ซีพีไอ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้ประสานเรือเครนเพื่อมาทำการกู้เรือยนต์ลากจูงที่จมลง ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา บริเวณสามแยกแม่น้ำเจ้าพระยา-แม่น้ำป่าสัก ใกล้เคียงท่าน้ำวัดพนัญเชิงวรวิหาร อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิต 1 ใน 2 รายนี้ เป็นหญิงทั้งนี้ทางบริษัท ซีพีไอ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้โทรศัพท์แจ้งครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้สูญหาย ให้มาดูการกู้เรือในครั้งนี้ด้วยที่บริเวณท่าน้ำวัดพนัญเชิงวรวิหาร
ในการกู้เรือยนต์ลากจูงที่จมลงในครั้งนี้ ทางบริษัท ซีพีไอ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้ประสานเรือเครนกู้เรือมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อมาทำการกู้เรือที่จมลงอยู่ในแม่น้ำ ในครั้งนี้ ส่วนเรือยนต์ลากจูงที่จมลง เป็นเรือเหล็กขนาดความยาวประมาณ 12 เมตร ซึ่งเป็นเรือยนต์ลากจูงที่มีขนาดใหญ่ ต้องใช้เวลาในการกู้เรือขึ้นมา
ล่าสุด เวลา17.00น. วันที่ 19 ธันวาคม ร.ต.อ หญิง ลภัสกฤตา ธาระเลิศ รอง สว.(สอบสวน)สภ.พระนครศรีอยุธยาได้รับแจ้ง พบว่าเจ้าหน้าสามารถกู้เรือลากจูงที่จมอยู่ใต้น้ำได้สำเร็จ จากนั้นได้ลากเรือจากจุดเกิดเหตุลากมาอยู่บริเวณหน้ามัสยิดตะเกี่ย ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตรจากนั้น เจ้าหน้าที่หน่วย กู้ภัยอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่กู้เรือได้ลงไปค้นหาบริเวณใต้ห้องเครื่องยนต์ของเรือ พบโครงกระดูก ของ นางนฤมล จันทรโชติ อายุ 51 ปี ผู้สูญหายแล้ว อยู่ในสภาพเหลือแต่โครงกระดูกและศีรษะแยกออกจากกันทางเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมชิ้นส่วนถูกใส่ผ้าขาวดำขึ้นไปบนท่าน้ำ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรเบื้องต้นก่อนที่จะให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ จ.ปทุมธานี
สอบถาม นางสาวสุพรรษา ฤทธิ์ฉิม อายุ 22 ปี ชาว ต.ปากจั่น อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นลูกของ นางนฤมล ธารกูล ผู้เสียชีวิตที่ยังไม่พบร่าง ได้กล่าวว่า “ตนเองกับ บริษัท ซีพีไอ ทรานสปอร์ต จำกัด ได้โทรพูดคุยติดต่อกันตลอดถึงเรื่องการที่จะกู้เรือที่จมลงไปขึ้นมา และเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่าน ทางบริษัทได้โทรศัพท์มาแจ้งตนว่าจะมีการกู้เรือในช่วงก่อนปีใหม่นี้ ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าจะมีการกู้เรือได้เร็วขนาดนี้ และหลังจากนั้นก็ได้โทรศัพท์มาแจ้งเตือนว่าจะมีการกู้เรือที่จมลงไปในวันนี้ ตนจึงรู้สึกดีใจในวันนี้จึงเดินทางมาพร้อมกับญาติๆ มาตั้งแต่ช่วงเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา เพื่อมาดูการกู้เรือที่จมลงในครั้งนี้ คิดว่าคงจะได้พบร่างของผู้ที่เป็นแม่ จนเมื่อช่วงเย็นตนเองดีใจสุดขีดที่ทางเจ้าหน้าที่ได้พบร่างคุณแม่แล้วอยู่ในบริเวณห้องเครื่องและต้องขอบคุณทีมงานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจและเจ้าหน้าที่กู้เรือที่ค้นหาร่างในครั้งนี้ส่วนจะทำพิธีฌาปนกิจวันไหนยังไม่ทราบต้องรอปรึกษาญาติอีกครั้ง
ทางด้าน นางสาวจุฑาทิพย์ การกสิขวิธี อายุ 42 ลูกสาวคนโต ลุง สมชาย ต้นดีใจอย่างมากที่เจอร่างป้า ตลอดระยะเวลาที่เกิดเรื่องจนก็สงสารทางครอบครัวของทั้งป้าและวันนี้ทางครอบครัวของตนเองก็ได้ตั้งศาลพระภูมิให้พ่อซึ่งอยู่ใกล้บริเวณจุดเกิดเหตุและวันนี้เป็นวันพระใหญ่ ตนเชื่อว่าพ่อของตนเองนั้นได้ให้พบร่างคุณป้าพร้อมกับการตั้งศาลในวันนี้
ทางด้านนาย ชัชชัย กิตติชัย ผู้บริหารสมาคมอยุธยารวมใจ กู้ภัย 2 กล่าวว่า หลังจากที่ทีมกู้เรือของบริษัทได้มาทำการกู้เรือตลอดระยะ 3 วันจนในช่วงเย็นหลังจากที่สูบน้ำใต้ท้องเรือจนหมดทางเจ้าหน้าที่จึงลงไปดูค้นหาร่างก็พบร่างของคุณป้านอนอยู่ใต้ห้องเครื่องยนต์บริเวณด้านขวาสภาพเหลือแต่กระดูกมีดินโคลนทับอยู่เล็กน้อย.
ภาพ/ข่าว สุรัตน์ ชัยกุลเทวินทร จ.อยุธยา.