ป่าไม้ลำปางรวบหนุ่มเมืองมะขามหวานยึดไม้ชิงชันไม้หวงห้ามคากระบะเตรียมส่งอีสาน

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2564 พนักงานสอบสวนสภ.งาวลำปางพร้อม เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.19 (แม่โป่ง),หน่วยฯ ลป.20 (แม่หวด) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรงาว ลำปาง , เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงงาว , เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภองาว , เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.จว.ลำปาง ได้นำตัว นายบรรเทิง บุญเรือง อายุ 43 ปี ชาว ตำบลกองทูล อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมของกลาง ไม้ชิงชันแปรรูป จำนวน 61 แผ่นเหลี่ยม ,ไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 39 แผ่นเหลี่ยม ไม้มะค่าแปรรูป จำนวน 120 แผ่นเหลี่ยม รถกระบะ เสริมโครงเหล็ก ยี่ห้อ Isuzu Dmax สีขาว ทะเบียน ผข 8479 เพชรบูรณ์ 1 คัน ผ้าใบสีน้ำเงิน จำนวน 4 ผืน ยางรองพื้น 1 ผืน สายรัดของ จำนวน 2 เส้น มาสอบสวน และนำตัวดำเนินคดี ในข้อหา ”นำไม้หวงห้ามหรือไม้ที่มีชื่อหรือชนิดตรงกับไม้หวงห้ามที่เคยอยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้มาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีสำหรับไม้อื่นที่ไม่ใช่ไม้สักและไม่น้อยกว่าสิบปีสำหรับไม้สักและพ้นสภาพการเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้แล้วเคลื่อนย้ายออกนอกเขตจังหวัดซึ่งเป็นที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้างหรือเป็นที่ประกอบเครื่องใช้นั้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”


ทั้งนี้ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนย้ายไม้ห้วงห้ามมาในรูปแบบซุกซ่อนมากับไม้เรือนเก่าโดยทำเป็นขบวนการและใช้รถกระบะในการขนย้าย เจ้าหน้าที่ได้ออกตระเวนหาข่าวตามเส้นทางและ เมื่อมาถึงบริเวณหน่วยบริการตำรวจทางหลวงงาว ท้องที่บ้านหนองเหียง หมู่ที่ 2 ตำบลนาแก อำเภองาว จังหวัดลำปาง พบรถกระบะบรรทุกไม้ที่มีผ้าใบปกปิดจึงไล่ติดตามจึงได้ขอตรวจสอบและให้คนขับทราบภายหลังคือ นายบรรเทิง บุญเรือง นำหลักฐานมาแสดงเบื้องต้นพบว่าเอกสารที่คนขับมาแสดงนั้นไม่ตรงกับไม้ที่ขนย้ายในครั้งนี้จึงได้ทำการควบคุมตัว เบื้องต้นผู้ต้องหาอ้างว่า รับว่าจ้างจากร้านค้าไม้เรือนเก่าในจังหวัดพะเยา ไปส่งในพื้นที่ จังหวัดนครราชศรีได้ค่าจ้างเที่ยวละ 6,000 บาท และมาถูกจับกุมดังกล่าวทั้งนี้การลักลอบขนย้ายไม้ห้วงห้ามโดยเฉพาะไม้ ชิงชัน ประดู่ มะค่า เป็นที่ต้องการของตลาดมืดเพื่อที่จะนำส่งไปขายยังต่างประเทศที่มีราคาสูงหลายเท่าตัวไม้บางชนิดคิดเป็น กิโลกรัมละ 2,000-5,000 บาท ทำให้ไม้แต่ละท่อนแต่ละแผ่นเหลี่ยมจึงมีราคาสูงและเป็นที่ล่อตาล่อใจของกลุ่มมอดไม้ในแต่ละพื้นที่ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ออกตรวจเข้มต่อไป